นายศักดิ์ดา โตรื่น ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บิ๊กสตาร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าลำลองภายใต้แบรนด์ แกมโบล, คาเนีย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรองเท้าลำลองในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผล กระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ซึ่งตลาดที่ได้รับผล กระทบจากปัจจัยลบดังกล่าวมากที่สุด คือ ตลาดรองเท้าระดับล่าง เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรยังตกต่ำ ส่งผลให้ ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำตลาดรองเท้าลำลองระดับล่างต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ ด้วยการหันมาทำตลาดรองเท้าผ้าใบในแนวสปอร์ตแฟชั่นราคา 700-800 บาทมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มระดับกลางขึ้นไป เช่นเดียวกับแผนการดำเนินงานของบริษัทที่จะหันมารุกทำตลาดรองเท้าในแนวสปอร์ตแฟชั่นมากขึ้น
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ที่จะถึงนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการผลิตรองเท้าผ้าใบแกมโบลในแนวสปอร์ตแฟชั่นเข้ามาทำตลาด เพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมสวมใส่ผ้าใบกึ่งกีฬากึ่งแฟชั่นและหารายได้เสริมรองเท้าลำลองที่มียอดขายลดลง จากความนิยมในกลุ่มรองเท้าสปอร์ตแฟชั่นที่ดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดรองสปอร์ตแฟชั่นมียอดขายเติบโตที่ดีกว่ารองเท้าลำลอง
"หลังจากบริษัทเริ่มหันมาทำตลาดผ้าใบสปอร์ตแฟชั่นราคาตั้งแต่ 700-800 บาท ด้วยการออกสินค้าใหม่เดือนละ 1 รายการ พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี" นายศักดิ์ดา กล่าว
นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า ส่วนแผนการทำตลาดรองเท้าแกมโบลนั้น บริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรมในเชิงวัสดุตอบโจทย์ผู้บริโภคเข้าทำตลาด ปีละ 60 รายการ เฉลี่ยเดือนละ 5 รายการ พร้อมกับเน้นสร้างแบรนด์ในสื่อออนไลน์มากถึง 90% เพื่อจับกลุ่มวัยรุ่นได้ตรงจุด ส่วนแบรนด์ คาเนีย รองเท้าเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่จับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่เริ่มทำตลาดปีนี้นั้นลูกค้าให้การตอบรับดี จากบุตรหลานจะเป็นผู้ซื้อให้พ่อแม่นั้นจะใช้สื่อออนไลน์ 50% สื่อทีวี หนังสือพิมพ์ บิลบอร์ด ต่างๆ อีก 50%
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะนำดีไซน์แนวทะเลเข้าไปทำตลาดในประเทศออสเตรเลีย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคต่างประเทศมองรองเท้าลำลองเป็นรองเท้าที่สวมใส่ไปทะเลเท่านั้น ขณะเดียวกันยังจะส่งออกรองเท้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น และไต้หวัน เพื่อหารายได้เสริม หลังจาก ปรับกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าสิ้นปี 2562 จะมียอดขายเติบโตที่ 15% เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มียอดขายรวมที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น