D ตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 2 เท่าตัว แตะระดับ 1 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้ถือเป็นปีแห่งการรับรู้ผลจากการโหมลงทุนช่วงปีก่อน โดยเฉพาะการเข้าเทคฯ "เด็นตัล วิชั่น"ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรม คาดสร้างรายได้ปีละ 300-400 ล้านบาท เล็งเปิดให้บริการรพ.ทันตกรรมแห่งแรกของไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะที่ปี 61 โชว์รายได้จากการขาย และบริการพุ่ง 40% เป็น 643.19 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 459.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.45 ล้านบาท
ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ รองประธานกรรมการ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตมาอยู่ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวจากปีก่อน เนื่องจากปีนี้จะเป็นการรับรู้ผลจากการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นการรับรู้รายได้คลีนิกใหม่เต็มปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีศูนย์ทันตกรรมและคลีนิกทันตกรรม รวม 16 สาขา ตั้งอยู่ในพื้นที่กทม. 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขาดำเนินการภายใต้ "BIDC" 1 สาขา "Dental Signature"4 สาขา "Smile Signature 8 สาขา และ"Dental Planet" 3 สาขา รวมทั้งจะเป็นปีแรกที่รับรู้รายได้จาก บริษัท เด็นตัล วิชั่น จำกัด หลังจากที่เข้าไปซื้อกิจการเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นบริษัทฯ ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรม โดยมีรายได้รวมปีละประมาณ 300-400 ล้านาบาท ดังนั้น การรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
"แนวโน้มธุรกิจในปีนี้ มั่นใจว่าจะเป็นปีที่ดีของ D เพราะเป็นปีของการรับรู้ดอกผลจากการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้จะเริ่มรับรู้รายได้ทั้งหมด และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจจะลดลง ซึ่งจะสนับสนุนให้ความสามารถการกำไรดีขึ้นอีกด้วย "ทพ.พรศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะมีการรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลทันตกรรมแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดย รพ.ดังกล่าว จะประกอบไปด้วย ห้องทันตกรรม จำนวน 19 ห้อง ห้องผ่าตัด และห้องเตรียมผ่าตัด คาดจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ธุรกิจโรงพยาบาลทันตกรรมจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ความสามารถการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนจะดีขึ้น และเมื่อเปิดให้บริการแล้ว น่าจะได้รับความสนใจทำให้มีจำนวนผู้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทมีรายได้จกการขายและการให้บริการอยู่ที่ 643.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% หรือ 183.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 459.62 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 33.45 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักภาษีค่าเสื่อม ดอกเบี้ย (อีบิทด้า) อยู่ที่ 84.73 ล้านบาท
ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ รองประธานกรรมการ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตมาอยู่ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวจากปีก่อน เนื่องจากปีนี้จะเป็นการรับรู้ผลจากการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นการรับรู้รายได้คลีนิกใหม่เต็มปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีศูนย์ทันตกรรมและคลีนิกทันตกรรม รวม 16 สาขา ตั้งอยู่ในพื้นที่กทม. 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขาดำเนินการภายใต้ "BIDC" 1 สาขา "Dental Signature"4 สาขา "Smile Signature 8 สาขา และ"Dental Planet" 3 สาขา รวมทั้งจะเป็นปีแรกที่รับรู้รายได้จาก บริษัท เด็นตัล วิชั่น จำกัด หลังจากที่เข้าไปซื้อกิจการเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นบริษัทฯ ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรม โดยมีรายได้รวมปีละประมาณ 300-400 ล้านาบาท ดังนั้น การรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
"แนวโน้มธุรกิจในปีนี้ มั่นใจว่าจะเป็นปีที่ดีของ D เพราะเป็นปีของการรับรู้ดอกผลจากการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้จะเริ่มรับรู้รายได้ทั้งหมด และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจจะลดลง ซึ่งจะสนับสนุนให้ความสามารถการกำไรดีขึ้นอีกด้วย "ทพ.พรศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะมีการรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลทันตกรรมแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดย รพ.ดังกล่าว จะประกอบไปด้วย ห้องทันตกรรม จำนวน 19 ห้อง ห้องผ่าตัด และห้องเตรียมผ่าตัด คาดจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ธุรกิจโรงพยาบาลทันตกรรมจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ความสามารถการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนจะดีขึ้น และเมื่อเปิดให้บริการแล้ว น่าจะได้รับความสนใจทำให้มีจำนวนผู้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทมีรายได้จกการขายและการให้บริการอยู่ที่ 643.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% หรือ 183.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 459.62 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 33.45 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักภาษีค่าเสื่อม ดอกเบี้ย (อีบิทด้า) อยู่ที่ 84.73 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น