กรมเจรจาฯ เผยเอฟทีเออาเซียน-จีนผ่าน 12 ปี ดันการค้าไทยไปแดนมังกร พุ่งเกือบ 300% - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

กรมเจรจาฯ เผยเอฟทีเออาเซียน-จีนผ่าน 12 ปี ดันการค้าไทยไปแดนมังกร พุ่งเกือบ 300%

img
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยเอฟทีเออาเซียน-จีนผ่าน 12 ปี ช่วยดันการค้าไทยกับแดนมังกรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเริ่มลดภาษีตั้งแต่ปี 48 และลดภาษีชุดสุดท้ายเหลือ 0-5% วันที่ 1 ม.ค.61 ทำสถิติมูลค่าเพิ่มเกือบ 300% แนะผู้ประกอบการศึกษาใช้สิทธิ์ลดภาษี เพิ่มโอกาสส่งออก พร้อมชวนผู้ประกอบการ SMEs เข้าแข่งขันประกวดทำแผนธุรกิจและการขยายตลาดสู่จีนด้วยเอฟทีเอ ก่อนพาผู้ชนะไปดูงานที่จีน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยในการเปิดงานสัมมนา เรื่อง “ชี้ช่องโอกาส บุกตลาดจีนด้วยเอฟทีเอ” ที่กรมฯ ร่วมกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จัดขึ้นในวันที่ 29 มี.ค. 2562 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ว่า นับตั้งแต่ความตกลงเอฟทีเออาเซียน-จีนมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2548 ไทยและจีนได้ทยอยลดเลิกภาษีศุลกากรระหว่างกันมาเป็นลำดับ เริ่มตั้งแต่ยกเลิกภาษีสินค้าเกษตรบางรายการเมื่อต้นปี 2549 จนล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2561 ได้ลดภาษีศุลกากรสินค้าชุดสุดท้ายระหว่างกันเหลือ 0-5% แล้ว เช่น สับปะรดแปรรูป โพลิเอสเตอร์ แป้งข้าวเจ้า ปลายข้าว เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้การค้าระหว่างไทยกับจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 มีมูลค่า 80,136 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 294.3% จากปี 2548 ที่เอฟทีเอเริ่มใช้บังคับ และขยายตัว 8.7% จากปี 2560 โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปจีน 30,175.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากจีน 49,961ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ จากสถิติข้างต้น แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ในปี 2561 จะเกิดวิกฤติทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่ไทยยังคงขยายการส่งออกไปจีนได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการไทยตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการวางแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางการค้าและรักษาความสามารถการแข่งขันของไทยในจีนผ่านการขยายการส่งออกในสินค้าที่จีนมีความต้องการเพื่อทดแทนสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป การเจาะตลาดเข้าสู่เมืองใหม่ๆ ของจีน โดยเฉพาะมณฑลทางฝั่งตะวันตกของจีน การขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซในร้านออนไลน์ที่มีชื่อของจีน

ขณะเดียวกัน การลดภาษีสินค้าชุดสุดท้ายลง ได้ส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าในกลุ่มที่ลดภาษีไปจีนได้เพิ่มขึ้น เป็นมูลค่ากว่า 1,907.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 8.1% จากปี 2560 โดยสินค้าที่ได้ประโยชน์ เช่น กระปุกเกียร์สำหรับยานยนต์ ปลายข้าว กระดาษพิมพ์ แผ่นชิ้นไม้อัด เคมีภัณฑ์ แป้งข้าวเจ้า เป็นต้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าเหล่านี้มากขึ้นเช่นกัน เป็นมูลค่า 6,251.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.5% เช่น แผงไฟ เครื่องอัดชนิดที่ใช้ในเครื่องทำความเย็น หม้อแปลงไฟฟ้า แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และทองแดง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่นำไปใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

“จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยปี 2561 มีการใช้สิทธิเอฟทีเอส่งออก 17,633.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 58.4% ของมูลค่าการส่งออกไปจีน โดยสินค้าส่งออกของไทยที่ใช้สิทธิเอฟทีเอสูงเป็นอันดับต้น เช่น ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียน มันสำปะหลัง พารา-ไซลีน และโพลิเมอร์ของเอทิลีน เป็นต้น ขณะที่การนำเข้าจากจีนโดยใช้สิทธิเอฟทีเอ 13,383.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 26.8% ของมูลค่าการนำเข้าจากจีน โดยสินค้านำเข้าที่มีการใช้สิทธิเอฟทีเอสูงเป็นอันดับต้น เช่น แผ่นเหล็กชุบ/เคลือบ แผ่นเหล็กรีดเจือ แผ่นอะลูมิเนียม พืชผักแห้ง (เห็ด กระเทียม) และโคมไฟ เป็นต้น ซึ่งกรมฯ ขอแนะนำให้ผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าไปจีน ศึกษาการใช้สิทธิประโยชน์ และใช้สิทธิ์ในการส่งออก โดยศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากกรมการค้าต่างประเทศ”นางอรมนกล่าว

นางอรมน กล่าวต่อว่า ในเดือนเม.ย.นี้ กรมฯ จะจัดกิจกรรมคัดเลือกผู้ประกอบการ SME สาขาเกษตรและเกษตรแปรรูปที่สนใจสมัครเข้าอบรมบูธแคมป์ “เทคนิคการรุกตลาดจีนให้รวยด้วยเอฟทีเอ” จำนวน 3 วัน ณ จังหวัดปราจีนบุรี โดยผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการอบรมจะได้รับการถ่ายทอดเรื่องการเขียนแผนธุรกิจและการขยายตลาดสู่จีนด้วยเอฟทีเอ หลังจากนั้นจะมีการประกวดนำเสนอแผนธุรกิจ เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 5 ทีม เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมงาน The 10th China (Shanghai) International Catering Food & Beverage Exhibition 2019 ที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-7 มิ.ย. 2562 เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์จริง

สำหรับผู้ประกอบการสาขาเกษตรและเกษตรแปรรูปที่สนใจสมัครเข้ารับคัดเลือกเพื่อร่วมบูธแคมป์ดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ FB : DTN Business Plan Award 2019 ซึ่งผู้สมัครสามารถส่งใบสมัครได้ 3 ช่องทาง ดังนี้ (1) ผ่าน FB: DTN Business Plan Award 2019 (2) Email: dtn.bp2019@gmail.com และ (3) ไปรษณีย์ส่งถึง ศูนย์อาเซียน – จีนศึกษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 85/1 หมู่ 2 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 โดยจะต้องยื่นใบสมัครภายในวันที่ 10 เม.ย.นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad