เปิดใจซีอีโอนิสสัน “เซอร์ไพรส์กับตลาดรถยนต์เมืองไทย” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เปิดใจซีอีโอนิสสัน “เซอร์ไพรส์กับตลาดรถยนต์เมืองไทย”

เปิดใจซีอีโอนิสสัน “เซอร์ไพรส์กับตลาดรถยนต์เมืองไทย”

“ราเมซ นาราสิมัน” เข้ามากุมบังเหียนดูแลตลาดประเทศไทยในตำแหน่งประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แทน “อัลตวน บาร์เตส”ที่เพิ่งครบวาระ เป้าหมายการสับเปลี่ยน
ครั้งนี้เพื่อสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานให้รวดเร็ว บริหารจัดการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด รวมถึงเสริมสร้างแบรนด์นิสสันให้มีความแข็งแกร่งภายใต้แผนระยะกลาง M.O.V.E. to 2022
วันก่อนในเวทีแถลงความร่วมมือของนิสสันและเดลต้าฯ “ประชาชาติธุรกิจ” ไม่พลาดที่จะขอพูดคุยกับนายใหม่หมาด ๆ คนนี้ เขาสะท้อนมุมมองของนิสสันและอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเราไว้อย่างน่าสนใจ
Q : ความท้าทายในปีนี้
ผมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น แถมช่วงที่ผ่านมาต้องเจอกับเทศกาลและวันหยุดยาวของไทย แต่โชคดีมีโอกาสได้ร่วมทริปทดสอบไปกับทีมและสื่อมวลชนที่ประเทศเมียนมา ซึ่งต้องยอมรับเลยว่ายังต้องใช้เวลาสักระยะในการศึกษาทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยแต่ถ้าถามในแง่ของเป้าหมายผลการดำเนินงานปีนี้ นิสสัน ไทยแลนด์จะต้องเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ทั้งในแง่ยอดขายที่ทำได้ 70,000 กว่าคัน และส่วนแบ่งทางการตลาดซึ่งจบที่ 7.1% โดยราว ๆ เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ผมน่าจะสามารถแชร์แผนงานของนิสสัน ประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
Q : สิ่งที่ต้องรีบทำหลังรับตำแหน่ง
นิสสันเรายังคงยืนยันตามแผนงานและเป้าหมายที่ได้เคยประกาศไว้ คือ แผนงานระยะกลาง เป็นระยะเวลา 3 ปีที่เราตั้งเป้าว่าจะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับประเทศไทยเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับเลข 2 หลักให้ได้อย่างแน่นอน และวันนี้ทุกอย่างก็ได้ดำเนินงานตามแผนงานที่บริษัทและบริษัทแม่ได้ปูทางไว้
Q : มองอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างไร
ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เห็นได้ว่ามียอดขายรถยนต์มากกว่า 1 ล้านคันต่อปี และตลาดหลักจะเป็นตลาดของรถยนต์กลุ่มปิกอัพและกลุ่มรถยนต์นั่ง ผมค่อนข้าง”เซอร์ไพรส์” กับตลาดรถยนต์ประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดพอ ๆ กับออสเตรเลีย ยังถือว่าเป็นตลาดหลักในการผลิตเพื่อส่งออกด้วย วันนี้แม้ว่าเทรนด์ความต้องการใช้รถยนต์ของโลกจะไปอยู่ที่ตลาดเอสยูวี แต่สำหรับประเทศไทยความแข็งแกร่งของตลาดรถปิกอัพขนาด 1 ตัน และรถยนต์นั่งยังคงมีความแข็งแรงส่วนรถในกลุ่มเอสยูวีเองก็ค่อย ๆ เติบโตและได้รับความนิยม
Q : ความแตกต่างระหว่างของลูกค้าในแต่ละประเทศ
ในออสเตรเลียส่วนใหญ่ลูกค้าจะสนใจเงื่อนไขทางด้านการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย 0% เหมือนฟิลิปปินส์ก็จะมองเรื่องดาวน์ต่ำ แต่สำหรับประเทศไทยเท่าที่ผมได้สัมผัส และได้ข้อมูลลูกค้าชาวไทยจะให้ความสำคัญเรื่อง “ราคา” มากกว่ามองรถยนต์ไปที่การใช้งาน
Q : ความคืบหน้าทำตลาดรถยนต์อีวี
หลังจากเราได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่านิสสัน ลีฟได้รับการตอบรับและความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี และในจำนวนลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อนั้น เราพบว่ามีสัดส่วนถึง 20% เป็นลูกค้าในต่างจังหวัด เราเพิ่งส่งมอบรถยนต์นิสสัน ลีฟให้กับลูกค้า โดยคันแรกที่จองและรับรถลูกค้าได้นำไปใช้งานที่ จ.เลย เมื่อรับรถแล้วเขาใช้งานขับไป จ.เลย มีการชาร์จไฟเพียง 2 ครั้ง วิ่งได้อย่างสบาย ๆ
Q : ความร่วมมือล่าสุดกับเดลต้า อีเลคโทรนิคส์
ล่าสุดนิสสันจับมือกับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการหลักเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าดูแลการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าอีเลคโทรนิคส์ให้กับลูกค้าที่ต้องการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และติดตั้งเครื่องชาร์จแบบเร็ว และแบบธรรมดา ที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 32 แห่งทั่วประเทศ โดยเดลต้า เป็นผู้ให้บริการสำรวจพื้นที่ ติดตั้ง และบริการหลังการขายพร้อมกับการรับประกันนานถึง 3 ปี ซึ่งตรงนี้ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งและอุปกรณ์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ45,000 บาท และเดลต้า อีเลคโทรนิคส์จะเป็นผู้เข้าไปติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้กับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ขายนิสสัน ลีฟทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่โรงงานนิสสัน บางนา-ตราด กม.21 ด้วย
Q : แผนเพิ่มดีลเลอร์ขายนิสสัน ลีฟ
แน่นอนว่าเรามีเป้าหมายอย่างน้อย ๆ 3 ปีจากนี้ไปจะต้องมีการขยายจำนวนดีลเลอร์ที่ได้รับสิทธิ์ให้จำหน่ายนิสสัน ลีฟเพิ่มเติมจาก 32 แห่งในปัจจุบันอย่างแน่นอนหรือหากเป็นไปได้เราก็อยากจะขยายให้กับทุกโชว์รูมทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของตลาดในพื้นที่นั้น ๆและการตอบรับความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ขณะที่ความร่วมมือ
ระหว่างนิสสันกับเดลต้าฯเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยที่ต้องการให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคันบนท้องถนนภายในปี พ.ศ. 2579
Q : โอกาสที่จะได้เห็นอี-พาวเวอร์ในเมืองไทย
นิสสันมุ่งมั่นและพยายามเดินตามแผนงานอยู่ ซึ่งเราเตรียมนำอี-พาวเวอร์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ และยังไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ แต่เราบอกได้เพียงว่า “อี-พาวเวอร์” เป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ที่มา : prachachat.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad