กรมเจรจาฯ นำผู้ประกอบการชาไทย โชว์ศักยภาพงาน THAIFEX เพิ่มโอกาสส่งออก
- News
- 28 พ.ค. 2562
- 263 เข้าดู
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศนำผู้ประกอบการชาไทย เข้าร่วมโชว์ศักยภาพในงาน THAIFEX 2019 หวังช่วยเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น หลังก่อนหน้า ได้ลงพื้นที่แนะนำการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เจาะตลาดอาเซียนและจีน จนสามารถขยายตลาดส่งออกได้แล้ว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการชาที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการชาที่มีอัตลักษณ์พิเศษของไทย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากจังหวัดเชียงราย เช่น บริษัท สวรรค์บนดิน บริษัท เสริมลักษณ์ชาไทย บริษัท 101 วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรชาเวียงกาหลง บริษัท ชาวังพุดตาล และบริษัท จตุพลชาไทย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ (THAIFEX- World of Food Expo 2019) เพื่อช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ความพิเศษของชาไทย เพิ่มโอกาสในการเจรจาจับคู่ธุรกิจของผู้ประกอบการชาไทยกับคู่ค้าต่างประเทศ และมีโอกาสในการทำตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
“ชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ปลูกมากในพื้นที่ภาคเหนือ มากที่สุดที่จังหวัดเชียงราย โดยนอกจากไทยจะส่งออกใบชาแล้ว ยังมีการนำไปแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ชาส่งออกด้วย เช่น ชาผงสำเร็จรูป ชา 3 in 1 เป็นต้น ซึ่งจากการที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการชาไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการชาของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย มีศักยภาพที่สามารถแข่งขันและเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศได้” นางอรมนกล่าว
ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมงานดังกล่าว ยังได้มีการจัดเวิร์กชอปการปรุงชา การผสมชา รวมถึงการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติ กระบวนการผลิต และความพิเศษของชาไทย ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงชาไทยกับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เพื่อให้ชาวต่างชาติที่ได้เข้าชมงานได้รับรู้ด้วย
ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้ลงพื้นที่จัดสัมมนาให้ความรู้และแนะนำช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า ให้กับผู้ประกอการชาของไทย โดยเฉพาะเอฟทีเอที่ไทยทำกับอาเซียนและจีนที่ได้มีการลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชาและผลิตภัณฑ์ชาจากไทยแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการชาไทย มีการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออกเพิ่มขึ้น ส่วนการนำเข้าร่วมงาน THAIFEX 2019 ที่เป็นงานระดับนานาชาติ มีผู้ประกอบการและผู้นำเข้าสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม คาดว่าจะเพิ่มโอกาสในการส่งออกชาและผลิตภัณฑ์ชาของไทยได้เพิ่มมากขึ้น
ในปี 2561 ไทยมีผลผลิตชาสดประมาณ 93,309 ตัน เพิ่มขึ้น 27.45% แบ่งเป็นชาอัสสัม 84,231 ตัน (ร้อยละ 90.27 ของผลผลิตชาทั้งหมดของไทย) และชาจีน 9,078 ตัน (ร้อยละ 9.73 ของผลผลิตชาไทย) โดยไทยส่งออกชา 2,743 ตัน ไปอินโดนีเซีย สหรัฐฯ กัมพูชา และจีน และส่งออกผลิตภัณฑ์ชา 5,811 ตัน ไปสหรัฐฯ เมียนมา กัมพูชา และลาว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการชาที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการชาที่มีอัตลักษณ์พิเศษของไทย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากจังหวัดเชียงราย เช่น บริษัท สวรรค์บนดิน บริษัท เสริมลักษณ์ชาไทย บริษัท 101 วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรชาเวียงกาหลง บริษัท ชาวังพุดตาล และบริษัท จตุพลชาไทย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ (THAIFEX- World of Food Expo 2019) เพื่อช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ความพิเศษของชาไทย เพิ่มโอกาสในการเจรจาจับคู่ธุรกิจของผู้ประกอบการชาไทยกับคู่ค้าต่างประเทศ และมีโอกาสในการทำตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
“ชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ปลูกมากในพื้นที่ภาคเหนือ มากที่สุดที่จังหวัดเชียงราย โดยนอกจากไทยจะส่งออกใบชาแล้ว ยังมีการนำไปแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ชาส่งออกด้วย เช่น ชาผงสำเร็จรูป ชา 3 in 1 เป็นต้น ซึ่งจากการที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการชาไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการชาของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย มีศักยภาพที่สามารถแข่งขันและเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศได้” นางอรมนกล่าว
ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมงานดังกล่าว ยังได้มีการจัดเวิร์กชอปการปรุงชา การผสมชา รวมถึงการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติ กระบวนการผลิต และความพิเศษของชาไทย ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงชาไทยกับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เพื่อให้ชาวต่างชาติที่ได้เข้าชมงานได้รับรู้ด้วย
ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้ลงพื้นที่จัดสัมมนาให้ความรู้และแนะนำช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า ให้กับผู้ประกอการชาของไทย โดยเฉพาะเอฟทีเอที่ไทยทำกับอาเซียนและจีนที่ได้มีการลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชาและผลิตภัณฑ์ชาจากไทยแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการชาไทย มีการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออกเพิ่มขึ้น ส่วนการนำเข้าร่วมงาน THAIFEX 2019 ที่เป็นงานระดับนานาชาติ มีผู้ประกอบการและผู้นำเข้าสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม คาดว่าจะเพิ่มโอกาสในการส่งออกชาและผลิตภัณฑ์ชาของไทยได้เพิ่มมากขึ้น
ในปี 2561 ไทยมีผลผลิตชาสดประมาณ 93,309 ตัน เพิ่มขึ้น 27.45% แบ่งเป็นชาอัสสัม 84,231 ตัน (ร้อยละ 90.27 ของผลผลิตชาทั้งหมดของไทย) และชาจีน 9,078 ตัน (ร้อยละ 9.73 ของผลผลิตชาไทย) โดยไทยส่งออกชา 2,743 ตัน ไปอินโดนีเซีย สหรัฐฯ กัมพูชา และจีน และส่งออกผลิตภัณฑ์ชา 5,811 ตัน ไปสหรัฐฯ เมียนมา กัมพูชา และลาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น