ไปรษณีย์ไทย เพิ่มจุดติดตั้ง “ตู้เอพีเอ็ม” อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร หลัง กพท. ห้ามนำของเหลวทุกชนิดเกิน 100 มล. ขึ้นเครื่องบิน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ไปรษณีย์ไทย เพิ่มจุดติดตั้ง “ตู้เอพีเอ็ม” อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร หลัง กพท. ห้ามนำของเหลวทุกชนิดเกิน 100 มล. ขึ้นเครื่องบิน

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ติดตั้งเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ หรือ ตู้เอพีเอ็ม (Automated Postal Machine: APM) ครอบคลุมท่าอากาศยาน 8 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารที่มีสิ่งของไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ เช่น ของเหลว เจล สเปรย์ โดยบริการดังกล่าวรองรับการฝากส่งสิ่งของไปยังพื้นที่ปลายทางทั้งในและต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง และยังสอดคล้องกับนโยบายการตรวจค้นของเหลวฯ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. 2562 ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยตั้งเป้าที่จะติดตั้งตู้เอพีเอ็มในสนามบินทุกแห่งภายในปี 2563
          นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้ติดตั้งเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ หรือ "ตู้เอพีเอ็ม" (Automated Postal Machine: APM)
          ในท่าอากาศยาน 8 แห่งเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี
          ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานแม่สอด และท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางโดยอากาศยาน และมีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ เช่น ของเหลว เจล สเปรย์ ที่มีขนาดเกิน 100 มิลลิลิตรและรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ1,000 มิลลิลิตร ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยกำหนดให้สามารถส่งกลับบ้านหรือไปยังปลายทางพื้นที่ต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่าย ในราคา 50 บาทต่อชิ้น ส่วนปลายทางต่างประเทศในทวีปเอเชียอยู่ที่ 400 บาท ทวีปยุโรป แอฟริกา กลุ่มโอเชียเนีย และโซนอเมริกา ค่าบริการอยู่ที่ 450 บาท ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีแผนในการติดตั้งตู้เอพีเอ็มท่าอากาศยานทุกแห่ง
ทั่วประเทศภายในปี 2563
          โดยสิ่งของที่สามารถฝากส่งผ่านตู้เอพีเอ็มต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม และมิใช่สิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ อาทิ วัตถุมีคมที่มีหรือไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน วัตถุระเบิด สิ่งมีชีวิต วัตถุอัดก๊าซและวัตถุไวไฟ ฯลฯ ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทาง เพื่อยืนยันตัวตนก่อนฝากส่ง
          ทั้งนี้ ตู้เอพีเอ็ม ถือเป็นหนึ่งในการยกระดับระบบปฏิบัติการของไปรษณีย์ไทย สู่การเป็นไปรษณีย์ไทยยุคดิจิทัล ซึ่งมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมการปฏิบัติการและการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้บริการสูงสุด ครอบคลุมทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสอดคล้องกับนโยบายการตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. 2562 ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
ประชาชนผู้สนใจสามารถสอบถามจุดติดตั้งและเงื่อนไขการใช้บริการฝากส่งผ่านตู้เอพีเอ็ม ได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือดูขั้นตอนการใช้บริการได้ที่ www.thailandpost.co.th
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad