พาณิชย์ชูกลยุทธ์สู้คู่แข่ง หลังส่งออก5เดือนแรกลดลง2.7% - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2562

พาณิชย์ชูกลยุทธ์สู้คู่แข่ง หลังส่งออก5เดือนแรกลดลง2.7%

พาณิชย์ชูกลยุทธ์สู้คู่แข่ง  หลังส่งออก5เดือนแรกลดลง2.7%

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่า 101,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,204,470 ล้านบาท ลดลง 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปัจจัยร่วมสำคัญ อาทิ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว รวมถึงปัจจัยเฉพาะของแต่ละประเทศ/ภูมิภาค เช่น ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในยุโรป เป็นต้น
อย่างไรก็ดีถือว่าการส่งออกไทยยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศในภูมิภาค และขยายตัวได้ดีในหลายตลาดทั้งตลาดสำคัญเดิม อาทิ สหรัฐอเมริกา และอินเดีย และตลาดดาวรุ่งใหม่ เช่น แคนาดาและรัสเซีย และ CIS (ประเทศเกิดใหม่ที่แยกตัวมาจากอดีตสหภาพโซเวียต)สำหรับรายสินค้าการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และกระจายตัวในหลายตลาด ทั้งตลาดจีน อาเซียน สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และฮ่องกง โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ผัก ผลไม้สดแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ไก่สด แช่แข็งและแปรรูป และเครื่องดื่ม
“จุดแข็งที่สำคัญต่อการส่งออกไทย คือ มีการกระจายตัวของตลาดส่งออกในระดับดีกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยปี 2561 การส่งออกไทยมีค่าดัชนีการกระจุกตัวของตลาดส่งออก (Concentration of Importing Countries) อยู่ที่ 0.05 เป็นระดับที่ต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของตลาดส่งออกไทยที่ไม่ได้พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป และมีความยืดหยุ่นต่อปัจจัยความผันผวนที่เกิดจากปัจจัยที่ไม่คาดคิดได้ดี ขณะที่ ลาว บรูไน เมียนมา และ เวียดนาม มีลักษณะตลาดส่งออก ที่ค่อนข้างกระจุกตัว ในการนี้ไทยจึงควรใช้จุดแข็งให้เป็นประโยชน์ขยายโอกาสการส่งออกในตลาดศักยภาพ”
ทั้งนี้ กรมจึงได้มีแผนผลักดันการส่งออกช่วงครึ่งหลังปี 2562 โดยใช้นโยบายการค้าควบคู่กับการลงทุนและการบริการ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์รายพื้นที่ขยายโอกาสการส่งออกในกลุ่มตลาดที่แข็งแกร่ง อาทิ สหรัฐฯ อินเดีย และ CLMV และเปิดตลาดใหม่ที่เริ่มเห็นสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง เช่น รัสเซีย และแคนาดา
อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับสินค้าที่ขยายตัวสูง และมีศักยภาพในการส่งออก อาทิ สินค้าเกษตร ประมงและอาหาร (สดและแปรรูป) ไก่ รวมถึงการผลักดันสินค้าดาวรุ่งใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่มีคุณภาพดี มาตรฐานระดับสากล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค เพื่อชดเชยการชะลอตัวของสินค้าหลักกลุ่มเดิม
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ยังได้จัดพิธีปิดการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” รุ่นที่ 17 ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad