GPSCเพิ่มทุน7.4หมื่นล้าน รุกพลังงานทดแทน8พันเมกะวัตต์ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

GPSCเพิ่มทุน7.4หมื่นล้าน รุกพลังงานทดแทน8พันเมกะวัตต์

GPSCเพิ่มทุน7.4หมื่นล้าน  รุกพลังงานทดแทน8พันเมกะวัตต์
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงกลุ่ม ปตท. ได้กำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตของกลุ่ม โดยในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทนจะลงทุนให้มีกำลังผลิตรวมทั้งกลุ่ม 8,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ อาทิ แบตเตอรี่, สมาร์ทซิตี้, สมาร์ทกริด เป็นต้น
“เป้าหมายการลงทุนพลังงานทดแทน 8,000 เมกะวัตต์ ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่สูงมาก ดังนั้นต้องทำการศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งไปสู่เป้าหมายที่ กลุ่ม ปตท.วางไว้ในการจะเติบโตอย่างยั่งยืนตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ของโลกและช่วยลดภาวะโลกร้อน ลด CO2 รวมทั้งเป็นการสอดรับกับแผนการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของจีพีเอสซีที่จะเพิ่มเป็น 18%ใน 5 ปี”นายชวลิตกล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อเร็วๆนี้ มีมติอนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวงเงิน 74,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท ให้มีฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น รองรับการขยายการลงทุนในอนาคต โดยตั้งเป้าเป็น 1 ใน 3 ของผู้ผลิตไฟฟ้าในไทยภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 4 ซึ่งจะมุ่งดำเนินงานตามยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย 1.การเติบโตพร้อมกลุ่ม ปตท. 2.การขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และ 3.การพัฒนาธุรกิจใหม่ โดยวางกรอบการลงทุนรองรับแผน 5 ปี (ปี 63-67) ภายใต้วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้รับส่วนหนึ่งไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น (Bridge Financing) จากสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) GLOW ส่วนการดำเนินงานของบริษัทภายหลังรวมกิจการ GLOW นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน(Synergy)
นายชวลิต กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 4,986 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกหลายโครงการที่จะเริ่ม COD ในปีนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำลิก 1 (NL1PC) ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า ไซยะบุรี (XPCL) กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ และศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จังหวัดระยอง แห่งที่ 4 (CUP-4) กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2563 2564 และ 2566 ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้านวนคร ส่วนขยาย (NNEG Expansion) โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF และหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU (Energy Recovery Unit) ตามลำดับนอกจากนี้ ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ปี2563 2564 และ 2566 ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้านวนครกำลังส่วนขยาย (NNEG Expansion) 60 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF 9.9 เมกะวัตต์ และหน่วยผลิตไฟฟ้าในโครงการขยายกำลังกลั่นของไทยออยล์ หรือ ERU (Energy Recovery Unit) 250 เมกะวัตต์ ตามลำดับ และยังมีแผนลงทุนอีก 20,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทนสัญญาเดิมที่หมดอายุ 600 เมกะวัตต์ จากสัญญาเดิม 900 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเข้าระบบปี 2565-2568

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad