นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่าท่ามกลางความท้าทายจากความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน ตลอดจนการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด แต่ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง เอสซีจียังมีโอกาสจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคอาเซียนและอีกหลายภูมิภาคในโลกเอสซีจีจึงเดินหน้าตามกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ล่าสุดธุรกิจแพ็กเกจจิ้งได้เข้าถือหุ้น80% ใน Visy Packaging (Thailand) Limited จาก Visy Singapore Investments Pte. Ltd. ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Visy Group คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,341 ล้านบาท โดยจะดำเนินการผ่าน SCGP Rigid Plastics Company Limited ซึ่งถือหุ้น 100% โดยธุรกิจแพ็กเกจจิ้งเอสซีจี
Visy Packaging (Thailand) Limited ถือเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงจากนวัตกรรมวัสดุเพื่อการบรรจุอาหาร โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีทั้งถ้วย ถาด และขวดโหล ที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการทนความร้อนได้สูง ช่วยถนอมอาหารน้ำหนักเบา และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกับผู้บริโภคแทนบรรจุภัณฑ์จากโลหะ อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์แบรนด์ระดับโลกที่ต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงในตลาดที่มีความต้องการเติบโต โดยเฉพาะในอาเซียนที่เป็นแหล่งผลิตอาหารและผลไม้ของโลกได้
“การเข้าเป็นผู้ถือหุ้นหลักใน Visy Packaging (Thailand) Limited ครั้งนี้ จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง เอสซีจี ทั้งในด้านการเติบโตของรายได้และการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อตอบโจทย์การเป็นคู่คิดด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอย่างยั่งยืนในระดับสากลได้เป็นอย่างดี”นายรุ่งโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 Visy Packaging (Thailand) Limited มีรายได้จากการขาย 1,777 ล้านบาทโดยมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 100 คนและสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 2,010ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น