“จุรินทร์”ซักซ้อมผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนโครงการประกันรายได้ ย้ำปาล์มรับเงิน 1 ต.ค. ข้าว 15 ต.ค. - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

“จุรินทร์”ซักซ้อมผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนโครงการประกันรายได้ ย้ำปาล์มรับเงิน 1 ต.ค. ข้าว 15 ต.ค.

“จุรินทร์”ซักซ้อมผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนโครงการประกันรายได้ ย้ำปาล์มรับเงิน 1 ต.ค. ข้าว 15 ต.ค.

img
“จุรินทร์”ประชุมวิดีโอทางไกลกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานปฏิบัติ ซักซ้อมทำความเข้าใจการดำเนินโครงการประกันรายได้ของรัฐบาล เผยชาวสวนปาล์มน้ำมันรอรับเงินส่วนต่างวันที่ 1 ต.ค. ส่วนข้าวจะจ่ายวันที่ 15 ต.ค. เกษตรกรที่เจอน้ำท่วม ก็มีสิทธิ์ได้ ย้ำสินค้าเกษตรอื่น อย่าน้อยใจ รัฐบาลจะดูแลทุกตัว ระบุส่วนต่างที่ชาวสวนปาล์มจะได้รับงวดแรกอยู่ที่กก.ละ 1.32 บาท หรือตกครัวเรือนละ 11,987.25 บาท

นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและชาวสวนปาล์มน้ำมัน ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด  คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด และคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด ผ่านระบบประชุมวิดีทัศน์ทางไกล (วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์) ที่กระทรวงมหาดไทยว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ การประกันรายได้เกษตรกร ที่จะมีการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ประเภท ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะดูแลแค่ 5 ตัว จะดูแลพืชเกษตรทุกตัว ซึ่งอาจจะใช้วิธีการต่างกัน ขอให้เกษตรกรสินค้าอื่นๆ ไม่ต้องกังวล

ทั้งนี้ สำหรับการประกันรายได้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบดำเนินการแล้ว 2 สินค้า คือ ข้าวและปาล์มน้ำมัน ส่วนยางพารา จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติในวันที่ 4 ต.ค.2562 เพื่อออกมาตรการการประกันรายได้ โดยจะเป็นการประชุมหารือ 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ เอกชน และตัวแทนเกษตรกร เพื่อให้การดำเนินนโยบายราบรื่น และบรรลุเป้าหมายสูงสุด

นายจุรินทร์กล่าวว่า ในส่วนของปาล์มน้ำมัน ขอแจ้งชาวสวนปาล์ม 2.6 แสนครัวเรือน เตรียมตัวไปตรวจสอบบัญชีธนาคารของท่านที่เปิดไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวันที่ 1 ต.ค.2562 เพราะเป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทยที่รัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกให้กับชาวสวนปาล์ม ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ 2 ทาง คือ รายได้จากการขายปาล์มน้ำมันในตลาด และราคาส่วนต่างที่รัฐบาลจ่ายชดเชยให้

ส่วนข้าว จะเริ่มจ่ายเงินประกันรายได้ครั้งแรกวันที่ 15 ต.ค.2562 เกษตรกรปลูกข้าวที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ให้รีบไปขึ้นทะเบียน ตรวจสอบสิทธิ ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และเปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส. เพื่อใช้สิทธิรับเงินประกันรายได้งวดต่อไป โดยข้าวเปลือกหอมมะลิประกันรายได้ที่ 15,000 บาทต่อตัน จำนวน 14 ไร่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน จำนวน 16 ไร่ ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน จำนวน 30 ไร่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน จำนวน 25 ไร่ ข้าวเปลือกเหนียว 12,000 จำนวน 16 ไร่ แต่จะไม่ประกันรายได้การปลูกข้าว 18 สายพันธุ์นอกเหนือจากนี้ เพราะไม่ส่งเสริมการปลูกข้าวสายพันธุ์อื่น โดยเงินประกันรายได้ จะรวมถึงเกษตรกรที่ประสบกับน้ำท่วม ถึงแม้จะขายพืชผลไม่ได้ แต่ก็จะได้รับเงินชดเชยนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะเดินหน้าหาตลาดรองรับผลผลิตทางการเกษตร โดยจะเร่งรัดผลักดันการส่งออก ซึ่งล่าสุดได้มีการเจรจากับจีนในการซื้อมันสำปะหลังปริมาณ 2.68 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท และขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่อินเดีย มูลค่า 9 พันล้านบาท หากรวมสินค้าอาหาร แป้งมัน และวัสดุก่อสร้าง จะขายได้มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท และในช่วงเดือนต.ค.2562 มีกำหนดเดินทางไปขายผลไม้ที่จีนอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับราคาอ้างอิง เพื่อจ่ายเงินชดเชยปาล์มน้ำมันงวดแรก คณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562-63 ได้คำนวณอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.68 บาท มีส่วนต่างจากราคาเป้าหมายที่ 4 บาทต่อกก. อยู่ที่ 1.32 บาทต่อกก. โดยเกษตรกรที่มีพื้นที่ 25 ไร่ จะได้รับเงินชดเชยงวดที่ 1 เท่ากับ 1.32 บาทต่อกก. คูณด้วย 25 ไร่ คูณ 363.25 กก. เท่ากับจะได้รับเงิน 11,987.25 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad