หลังจากที่ได้มีการเผยโฉม เชฟโรเลตแคปติวา ใหม่ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019ที่ผ่านมา ทีมงานเชฟโรเลต ประเทศไทย เดินหน้าจัดกิจกรรม “Driven to Achieve”เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่ เทคโนโลยีล้ำสมัย และฟังก์ชั่นต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 4 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ด้วยราคาขายเริ่มต้น 9.9 แสนบาท
เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีการออกแบบล่าสุด และได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบล่องหน เอฟ-35 (F-35 stealth) ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา รวมถึงผลิตด้วยหลักการและกระบวนการสร้างคุณภาพ ในกระบวนการผลิตระดับโลกของจีเอ็ม โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยว ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีพื้นที่ช่วงขาที่กว้าง และพื้นที่เหนือศีรษะที่โปร่ง สูงกว่าเดิม มีช่องชาร์จ USB ในทุกแถวที่นั่ง และฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย อาทิ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 degree camera ระบบเครื่องเสียง Infinity by Harman กุญแจอัจฉริยะ PEPs พร้อมระบบ keyless entry และหลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ
นอกจากนี้ ยังมี เชฟโรเลต ลิงค์ (Chevrolet Link) สามารถแสดงผลจากสมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีระบบการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี และทำให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยโทรศัพท์โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน และรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ (รองรับ Apple CarPlay ต้นปี 2563) ในส่วนของเบาะที่นั่งแถวสอง สามารถพับแบนราบ แยกส่วนแบบ 60:40 และเบาะที่นั่งแถวสาม พับแบนราบแยกส่วนแบบ 50:50 (รุ่น LT และ Premier) พร้อมจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับผู้โดยสารตอนที่สอง
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จเจอร์ 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์)ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที โดยแคปติวา ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ในกลุ่มเอสยูวี ซี เครื่องยนต์เบนซินที่มีแรงบิดสูงที่สุด และเป็นรถยนต์เชฟโรเลต รุ่นแรกในประเทศไทย ที่ใช้เกียร์ CVT 8 สปีด
ช่วงการทดสอบ ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่นี้ ถูกออกแบบมาได้อย่างเหนือความคาดหมายอย่างมาก มีความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัยตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย ภายในหรูหรา เลือกใช้วัสดุคัดเกรดอย่างดี รวมทั้งการติดตั้งฟีเจอร์ใหม่ที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ จอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว ที่เรียกว่าใหญ่ที่สุด เหมือนเอา iPad มาแปะไว้เลยทีเดียว ดูง่าย ใช้งานสะดวก พร้อมระบบ Chevrolet Link เชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิง ที่ทันสมัย หลังคาแบบพาโนรามิกซันรูฟ เปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าช่องชาร์จ USB พอร์ท 4 ตำแหน่ง และเพิ่มความปลอดภัย ด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ที่นำเสนอภาพรอบตัวรถแบบเรียลไทม์ รวมทั้งภาพมุมสูงบนจอแสดงผล พร้อมเส้นกะระยะ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถเข้าจอดได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ด้านท้ายก็กว้างขวาง มีความจุสูงสุดถึง 587 ลิตร หรือ เท่ากับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 5 ใบ
โดยเส้นทางทดสอบ ทีมประชาสัมพันธ์เลือกใช้เส้นทางกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ การขับขี่ในเมืองให้ความคล่องตัวสูง ด้วยความที่เป็นรถเอสยูวี ทำให้ทรรศนะวิสัยในการขับขี่ที่ดี เบาะนั่งโอบกระชับกับสรีระดีนั่งสบาย พื้นที่เหนือศีรษะ และพื้นที่ช่วงขา มีเหลือเฟือ คนตัวใหญ่สูง 170 ซม.ขึ้นไป นั่งได้สบายมาก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง แบบไฟฟ้า ถึงแม้ว่าตอนแรกจะมีความรู้สึกว่าเบาเกินไป แต่พอเริ่มคุ้นเคยแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ควบคุมง่าย และให้ความแม่นยำดี ฟีเจอร์ต่างๆ ก็จัดมาให้พร้อมสรรพ เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว อัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ช่วงออกนอกเมือง เจอทางตรงๆ ยาวๆ ผู้เขียนลองกดคันเร่งดู สามารถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้รวดเร็วทันใจดี จะแซงก็มั่นใจ ช่วงล่างเกาะถนนดี ในส่วนของ ระบบช่วยในการขับขี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองภาพ 360 องศา, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน,ระบบป้องกันการลื่นไถล และล้อหมุนฟรี ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ ได้เป็นอย่างดี
โดยสรุป แคปติวา ใหม่ ถือได้ว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดกลาง (SUV) ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น และราคาที่โดนใจ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย
ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ
ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ
สำหรับ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 5 ที่นั่ง(LS) ราคา 999,000 บาท รุ่น 7 ที่นั่ง (LT และ Premier) ราคาจำหน่าย รุ่น LTราคา 1,099,000 บาท และ รุ่น Premierราคา 1,199,000 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น