เอฟทีเอช่วยดันส่งออกสินค้าเกษตร ยอด 7 เดือนไทยขยับติดท็อป 10 เล็งเจรจาลดภาษีต่อ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

เอฟทีเอช่วยดันส่งออกสินค้าเกษตร ยอด 7 เดือนไทยขยับติดท็อป 10 เล็งเจรจาลดภาษีต่อ

เอฟทีเอช่วยดันส่งออกสินค้าเกษตร ยอด 7 เดือนไทยขยับติดท็อป 10 เล็งเจรจาลดภาษีต่อ

img
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยช่วง 7 เดือนปี 62 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรขยับติดท็อป 10 ของโลก และส่งออกเป็นที่หนึ่งหากเทียบกับอาเซียน เผยในยอดส่งออกทั้งหมด 70% เป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นคู่เจรจาเอฟทีเอ เตรียมเดินหน้าผลักดันคู่เจรจาเอฟทีเอลดเลิกภาษีต่อ ทั้งการทบทวนเอฟทีเอที่มีอยู่แล้ว หรืออยู่ระหว่างการเจรจา และเอฟทีเอใหม่

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว พบว่า ในช่วง 7 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลกคิดเป็นมูลค่ารวม 23,741 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยขยับลำดับขึ้นมาเป็นประเทศผู้นำในการส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก ลำดับที่ 10 จากเดิมลำดับที่ 11 ในปี 2561 และหากเทียบกับกลุ่มสมาชิกอาเซียน ไทยเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรสูงที่สุด

“ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศต่างๆ หดตัว แต่ความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ได้เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างแต้มต่อให้สินค้าเกษตรไทย มีศักยภาพด้านการแข่งขันสูงในตลาดโลก โดยเฉพาะในตลาดที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย ทำให้ยังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือน ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไทยไป 18 ประเทศคู่เอฟทีเอ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง มีมูลค่ารวม 16,833 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 70% ของการส่งออกสินค้าเกษตรไทยทั้งหมด มีคู่ค้าสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น

นางอรมนกล่าวว่า กรมฯ ให้ความสำคัญกับการเจรจาผลักดันให้คู่ค้าลดเลิกภาษีและอุปสรรคทางการค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบและโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการทบทวนความตกลงเอฟทีเอที่มีอยู่แล้ว และเอฟทีเอที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น อาร์เซ็ป ตุรกี ปากีสถาน และศรีลังกา และเอฟทีเอที่มีแผนจะเจรจาในอนาคต เช่น สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad