พระรามราชนิเวศน์ พระราชฐานฤดูฝนของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ณ เมืองเพชรบุรี - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

พระรามราชนิเวศน์ พระราชฐานฤดูฝนของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ณ เมืองเพชรบุรี

ตะลอนเที่ยว : พระรามราชนิเวศน์ พระราชฐานฤดูฝนของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ณ เมืองเพชรบุรี
ณ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเพชรบุรีในเขตตัวเมืองที่ตำบลบ้านปืน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี มีพระราชนิเวศน์แห่งหนึ่งที่ได้รับการสถาปนาโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระราชนิเวศน์องค์นี้ปลูกสร้างตามแบบยุโรป โดยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายคาร์ล ซิกฟรีด เดอร์ริง ชาวเยอรมัน (Karl Siegfried Dohring) เป็นสถาปนิก (สถาปนิกผู้นี้เป็นผู้ออกแบบวังบางขุนพรหม วังวรดิศ และวังพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงเป็นแม่งานควบคุมการก่อสร้าง
รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2453 แต่หลังก่อสร้างไม่นาน พระองค์เสด็จสวรรคต การก่อสร้างดำเนินต่อไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2459 แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีสมโภชพระราชฐานแห่งนี้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2461
ด้วยเหตุที่มีสถาปนิกเป็นชาวเยอรมัน ดังนั้น พระรามราชนิเวศน์ หรือ วังบ้านปืน จึงมีรูปลักษณ์เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกทุกกระเบียดนิ้วรูปแบบของวังบ้านปืนเป็นลักษณะศิลปะแบบอาร์ต นูโว (Art Nouveau) ผสมกับบาโรก (Baroque) มีบางกระแสบอกว่าวังบ้านปืนได้แบบอย่างมาจากพระตำหนักของพระจักรพรรดิไกเซอร์ แห่งปรัสเซีย
ด้วยความเป็นอาร์ต นูโว จึงทำให้พระราชฐานแห่งนี้ไม่มีการประดับประดาลวดลายมากมายเหมือนกับศิลปะแบบบาโรกแต่จะเน้นความเข้มขรึม มั่นคง เน้นหน้าต่างสูงเพดานสูง เพื่อให้ดูโอ่อ่าอลังการ พระราชฐานเป็นอาคารสองชั้น มีหลังคาโดม ภายในมีห้องโถงโอ่อ่า มีบันไดรูปโค้งทั้งสองข้างขึ้นสู่ชั้นสอง ความน่าสนใจของศิลปะที่ใช้ตกแต่งภายในพระราชฐานคือกระเบื้องเคลือบสไตล์ยุโรปและโลหะทองแดงขัดมัน ที่หัวเสาบันไดมีรูปปั้นตุ๊กตารูปเด็กจากยุโรปประดับทุกเสา และที่พิสดารคือมีลูกไม้ทำจากกระเบื้องเคลือบประดับตามช่องรอบโถงชั้นสอง และที่น่าสนใจอีกประการคือ แต่ละห้องมีการใช้สีสันและวัสดุประดับผนังต่างๆ กันไป เช่น โถงบันไดเป็นโทนสีเขียว ห้องเสวยเป็นโทนสีเหลือง (ขอแนะนำว่าเมื่อคุณเข้าไปชมพระราชฐานแห่งนี้ กรุณาดูกระเบื้องเคลือบประดับผนังแต่ละห้อง เพราะมีความงดงามมาก) ส่วนห้องพระบรรทมใช้โทนสีทอง เสาในห้องพระบรรทมเป็นโลหะทองแดงขัดเงาลวดลายบนกรอบประตูหัวเสาเป็นรูปแจกันดอกไม้ขนาดมหึมาบนพื้นครึ่งวงกลมสีทอง(เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในห้องต่างๆ ดังนั้นจึงไม่มีรูปมาฝาก)
ในสมัยก่อนนั้นที่หน้าพระราชฐานจะมีรูปหล่อด้วยโลหะ พระนารายณ์ทรงปืนแต่ภายหลังได้นำรูปหล่อนี้ไปตั้งไว้ที่หน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เมื่อคุณไปพระราชฐานแห่งนี้แล้วสิ่งสำคัญที่คุณต้องไม่พลาดคือสวนยุโรปที่อยู่ด้านหลังของพระราชฐาน ต้องบอกว่าในสมัยก่อนนะตรงนี้งดงามมากเหลือเกิน แต่ปัจจุบันไม่ได้รับการดูแลรักษาให้ดีเท่าที่ควร จึงทำให้ความงดงามลดลงไปบ้าง
ส่วนด้านหน้าของพระราชฐานมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ประทับยืน ส่วนที่บริเวณรอบฐานพระบรมรูปมีปืนใหญ่วางอยู่สี่มุม แต่ละกระบอกมีชื่อด้วย แต่น่าเสียดายที่ชื่อบนแผ่นโลหะเลือนจนอ่านไม่ออก
ปัจจุบันวังบ้านปืนอยู่ในความดูแลของมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรีในบริเวณค่ายรามราชนิเวศน์ เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 08.00-16.00 น. จ่ายค่าบำรุง โดยหยอดเงินลงในตู้รับบริจาค คนละ 20 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad