“พาณิชย์”ทำแผนดันส่งออกมันสำปะหลังปี 63 เน้นรักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่า ขยายตลาดใหม่ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“พาณิชย์”ทำแผนดันส่งออกมันสำปะหลังปี 63 เน้นรักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่า ขยายตลาดใหม่

“พาณิชย์”ทำแผนดันส่งออกมันสำปะหลังปี 63 เน้นรักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่า ขยายตลาดใหม่

img
กรมการค้าต่างประเทศทำแผนดันส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ปี 63 เตรียมลุยรักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่าและขยายตลาดใหม่ พร้อมกระจายการส่งออกให้หลากหลายขึ้น ระบุจีน เน้นเจาะรายมณฑล ตามทวงคืนตลาดอียู ส่วนตุรกี นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ อินเดียและฟิลิปปินส์ ดันใช้ทำอาหารสัตว์ รับปีนี้ส่งออกต่ำเป้า คาดทำได้ 7.5 ล้านตัน ลด 10% แต่มูลค่าไม่ลด คาดปี 63 แนวโน้มราคาดี เหตุผลผลิตลดจากโรคใบด่างและความต้องการพุ่ง
        
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนการขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังปี 2562/2563 ร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย โดยจะเน้นในภารกิจ 3 ด้าน คือ รักษาตลาดเดิม คือ จีน ฟื้นฟูตลาดเก่า ได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) และขยายตลาดใหม่ เช่น ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ และจะเน้นการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการส่งออก และเพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้าให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทย ซึ่งแผนนี้คณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ได้มีมติรับทราบแล้ว
        
ทั้งนี้ ในส่วนการรักษาตลาดเดิม จะเร่งขยายตลาดจีนให้ได้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันจีนเป็นตลาดหลักของมันเส้นถึง 90% ของการส่งออก ซึ่งจะเน้นการกระจายการส่งออกไปยังผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดอื่นเพิ่มขึ้น เช่น มันอัดเม็ด และแป้งมัน และจะเจาะลึกเป็นรายมณฑล ได้แก่ คุนหมิง หนางหนิง กวางโจว เซียะเหมิน และเฉิงตู เป็นต้น โดยจะจัดกิจกรรมนำผู้ประกอบการพบปะกับผู้ซื้อและผู้นำเข้า เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า
        
ส่วนตลาดอียู ซึ่งเคยเป็นตลาดเดิมของไทย จะจัดกิจกรรมฟื้นฟูตลาดมันอัดเม็ด เช่น ในเนเธอร์แลนด์ เร่งเจรจากับอียูขอเพิ่มการจัดสรรโควตาแป้งมัน ทั้งจากอียูและอังกฤษจากกรณีที่อังกฤษจะออกจากอียู (เบร็กซิต) โดยต้องได้โควตาไม่น้อยกว่าเดิมหรือได้มากกว่าเดิม และเตรียมการเจรจาลดภาษีกับอียู หากมีการเริ่มต้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู
        
สำหรับตลาดใหม่ จะเน้นการจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปขยายตลาด ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการในตุรกีและนิวซีแลนด์ ทำมาแล้ว 2 ปี โดยได้ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้มันสำปะหลังมาทำอาหารสัตว์ดียังไง ช่วยให้สัตว์แข็งแรง หรือเพิ่มปริมาณน้ำนมยังไง ซึ่งได้รับความสนใจ และล่าสุดตุรกีได้มีการลงนามใน MOU ซื้อขายมันสำปะหลังกับไทยแล้ว 1.5 แสนตัน มูลค่า 690 ล้านบาท และยังจะทำต่อเนื่องอีก ส่วนเกาหลีใต้ จะเน้นผลักดันส่งออกมันเส้น มันอัดเม็ด เพื่อไปทำอาหารสัตว์ และแอลกอฮอล์ อินเดีย เน้นเจาะเป็นรายเมือง ซึ่งต้นปีหน้า จะมีคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อีก และฟิลิปปินส์ จะเน้นกากมัน มันสำปะหลังป่นสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
        
นายกีรติกล่าวว่า การส่งออกมันสำปะหลังล่าสุด ตัวเลข 9 เดือนปี 2562 (ม.ค.-ก.ย.) ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังได้รวม 5.27 ล้านตัน ลดลง 17% มูลค่า 2,039 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 12% และทั้งปีคาดว่าจะส่งออกได้ปริมาณ 7.5 ล้านตัน ลดลง 10% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8.5 ล้านตัน มูลค่า 2,808 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐเล็กน้อย ซึ่งถือว่าไทยยังขายของได้แพงขึ้น แม้ปริมาณจะลดลง
        
ส่วนแนวโน้มราคาในปี 2563 คาดว่า หัวมันสำปะหลังสดน่าจะเกิน 2 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ขึ้นไป แต่จะเกินไปมากน้อยแค่ไหน ไม่สามารถตอบได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากผลผลิตลดลง จากการเกิดโรคใบด่าง และมีความต้องการซื้อมันสำปะหลังไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad