ILINK ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งการก่ อสร้างอาคารSAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ประกาศเดินหน้าลุยโครงการก่อสร้ างอาคารหลังที่ 1 (Midfield Satellite) หรือSAT-1 หลัง ILINK คว้างานมูลค่า 2 สัญญาราว4,080 ลบ. ได้แก่ CC-3 งานก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้ าแรงสูงและสาธารณูปโภค มูลค่า 1,980 ลบ. และ CC-4 งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้ โดยสารอัตโนมัติ (APM) ร่วมกับ SEIMEN มูลค่า 2,100 ลบ. คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดื อน ธ.ค. 2563
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า หลังจากที่ ILINKได้เข้าร่วมพัฒนา “โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุ วรรณภูมิ ระยะที่ 2” ในงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณู ปโภค เป็นการดำเนินงานรู ปแบบทำสายไฟฟ้าลงใต้ดินและงานก่ อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยชนิด GIS Substation ซึ่งถือเป็นงานที่ ILINK มีความถนัดและเชี่ยวชาญเป็นอย่ างมาก ร่วมกับงานก่อสร้างระบบสาธารณู ปโภคอื่นๆภายในอาคารสนามบินสุ วรรณภูมิของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มูลค่างานทั้งสิ้น 1,980 ล้านบาท
นอกจากนี้ ILINK ยังคว้าอีก 1 สัญญา ในงานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่ งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) มูลค่า 2,100 ล้านบาท ILINK ได้ร่วมมือกับรถไฟฟ้าของบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ในการจัดหาระบบรถไฟฟ้ารุ่น Airvalสำหรับใช้เชื่อมต่อขนส่งผู้ โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลั กกับอาคาร SAT 1 ปัจจุบันโครงการได้คืบหน้าอย่ างมาก ILINK มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่ จะดำเนินการและส่งมอบงานอย่างมี คุณภาพและตามเวลาที่กำหนด คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จทั้ งโครงการในช่วงปลายปี 2563 และเปิดให้บริการเต็มรู ปแบบในปลายปี 2563 ซึ่งจะทำให้ขี ดความสามารถในการรองรับผู้ โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นจากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี
ข้อมูลบริษัท :
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่าย โดยเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ ายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซี ยนและเปิดดำเนินธุรกิจมานานกว่า32 ปี มีสาขา 5 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศและมีตั วแทนจำหน่าย ผู้ค้าและร้านค้า อยู่ทั่วประเทศมากกว่า15,000 ราย รวมทั้งลูกค้าภาครัฐอีกมากกว่า 100 องค์กร อีกทั้งยังได้นำความเชี่ ยวชาญมาต่อยอดเป็นธุรกิจโทรคมนาคม โดยเป็นผู้ให้บริการการสื่ อสารผ่านโครงข่ายสายไฟเบอร์ ออฟติกทั่วไทย เน้นลูกค้าที่มีการเชื่ อมโยงสาขา ทั้งภาคธุรกิจ ภาคการเงินและภาครัฐ โดยยังได้สร้างศูนย์ดาต้าเซ็ นเตอร์ เพื่อให้บริการรับฝากข้อมู ลของลูกค้ารายใหญ่อีกด้วยและอี กหนึ่งธุรกิจที่นำความเชี่ ยวชาญของทีมวิศวกรรมมารั บเหมางานโครงการก็คือ ธุรกิจวิศวกรรม เป็นโครงการ Turn Key การก่อสร้างระบบโครงข่ ายและระบบสายเคเบิ้ลไฟฟ้าและสื่ อสาร เช่น ระบบสายไฟฟ้าใต้ทะเล โครงการสายส่งไฟฟ้า และสายเคเบิ้ลใต้ดิน เป็นต้น
ในปี 2562 ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 5,485 ล้านบาท โดยประมาณการสัดส่วนรายได้ดังนี้
1.ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (DISTRIBUTION) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 45%)
2.ธุรกิจโทรคมนาคม (TELECOM) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 37%)
3.ธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิ เศษ (ENGINEERING) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 18%)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น