L&E ส่งซิกรายได้ Q4/62 ดีกว่า Q4/61 แต่ทั้งปีชะลอตัวเล็กน้อย กอด Backlog 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงต้นปีหน้า - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

L&E ส่งซิกรายได้ Q4/62 ดีกว่า Q4/61 แต่ทั้งปีชะลอตัวเล็กน้อย กอด Backlog 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงต้นปีหน้า

L&E ส่งซิกรายได้ Q4/62 ดีกว่า Q4/61 แต่ทั้งปีชะลอตัวเล็กน้อย กอด Backlog 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงต้นปีหน้า

L&E ส่งซิกรายได้ Q4/62 ดีกว่า Q4/61 แต่ทั้งปีชะลอตัวเล็กน้อย กอด Backlog 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงต้นปีหน้า

          L&E ส่งสัญญาณ Q4/2562 ดี รายได้โตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2562 รวมทั้ง ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมตุนงานในมือ 1,500 ลบ. ทยอยรับรู้รายได้ถึงต้นปี 2563 วางกลยุทธ์ รุกตลาดอุปกรณ์แสงสว่างต่อเนื่องในปีหน้า คาดกำลังซื้อฟื้น ผนวกกับงานโครงการ และนโยบายภาครัฐเริ่มมีการเบิกจ่ายชัดเจน หนุนความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แถมมีลุ้นขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่ม หลังเจรจาลูกค้าใหม่อยู่ 2-3 ราย คาดได้ข้อสรุปต้นปีหน้า คาดเป็นแรงผลักดันให้ ปี 63 โตก้าวกระโดด

          นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2562 คาดว่ารายได้ของบริษัทฯ จะเติบโตจากไตรมาส 3/2562 รวมถึงเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 มีรอไว้อยู่แล้วที่ 1,500 ล้านบาท ชึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องต้นปีหน้า
          "ปีนี้เป็นปีที่มีความท้าท้ายอย่างยิ่ง ทั้งปัจจัยภายในของบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ยังมีเหตุการณ์สำคัญหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท ทั้งในด้านลบ และด้านบวก เช่น สงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน ที่ยังคงยืดเยื้อออกไป ส่งผลให้มีสินค้าจีนจำนวนมาก ทะลักเข้ามาในประเทศไทย ก่อให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และราคาสินค้าต้องปรับตัวลดลง แม้ว่าราคาสินค้าที่ลดลงจะสามารถชดเชยได้ด้วยต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ ที่สามารถปรับลดได้มากกว่า ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ในปีนี้สูงกว่าปีก่อน ๆ" นายปกรณ์กล่าว
          แต่อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา กลับส่งผลดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากผู้ประกอบการ จากประเทศสหรัฐอเมริกาหลายรายได้มาติดต่อเจรจา เพื่อให้บริษัทฯ ผลิตสินค้าให้แทน จากเดิมที่ให้ประเทศจีนผลิต โดยขณะนี้เจรจาอยู่ 2 - 3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในต้นปี 2563 ซึ่งหากการเจรจาประสบความสำเร็จจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีการเติบโตก้าวกระโดด
          ทั้งนี้ จากการที่ภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2562 ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากมีการชะลอโครงการของภาครัฐในบางโครงการถูกเลื่อนส่งมอบออกไป ได้แก่ งานอาคารเทียบเครื่องบินรอง สนามบินสุวรรณภูมิ และงานบางส่วนของรัฐสภา เป็นต้น รวมไปถึง ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกาที่ยังยืดเยื้อ และเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการในปี 2562 ของ L&E คาดว่ารายได้จะลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากปีก่อนมีรายได้ 2,923 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,861 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 22.7 ล้านบาท มีสัดส่วนงานโครงการในส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าและแสงสว่าง 68% เป็นรายได้หลัก
          สำหรับเป้าหมายปี 2563 มั่นใจว่า จะเป็นปีที่ดีของ L&E ต่อเนื่อง จากการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจแสงสว่างในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ รองรับความต้องการใช้ LED เพิ่มสูงขึ้น คาดกำลังซื้อผู้บริโภคจะฟื้นตัว งานโครงการจากภาครัฐบาลและเอกชนเริ่มขับเคลื่อนเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการเปลี่ยนอุปกรณ์แสงสว่างมาใช้ LED เพื่อประหยัดพลังงานแทนของเดิม
          โดยปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตรายได้ของบริษัทฯ แบ่งเป็นงานโครงการ 70%, งานค้าส่ง/ค้าปลีก 25% และงานต่างประเทศ 5% แต่อย่างไรก็ตาม หากการเจรจากับผู้ประกอบการจากประเทศสหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จ สัดส่วนพอร์ตรายได้จะเปลี่ยนไปอย่างมาก เป็นงานโครงการ 45%, งานค้าส่ง/ค้าปลีก 15% และงานต่างประเทศ 40% (สัดส่วน 40% ของงานต่างประเทศ แบ่งเป็นตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งยังคงเน้น Business Model "Solution Provider" 10% และตลาด Mass ที่ส่งไปขายในประเทศที่อยู่ห่างไกล เช่น สหรัฐอเมริกา คาดว่าพอร์ตรายได้จะอยู่ที่ 30%
          "การเติบโตที่ผ่านมาของบริษัทฯ เป็นแบบ Organic Growth เป็นหลัก แต่จากนี้ไปบริษัทฯ จะเน้นเพิ่มการเติบโต ด้าน Smart Devices ด้าน IoT เพื่อสอดรับกับยุค Disruptive Technology อย่างไรก็ตาม บริษัทฯให้ความสำคัญกับการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีนโยบายรักษาวินัยทางการเงิน และจะรักษาสัดส่วน D/E ที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดปัญหาความเสี่ยงจากการลงทุนมากเกินไป พร้อมทั้ง การขยายโอกาสทางการตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ" นายปกรณ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad