นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมการเจรจาการค้า เพื่อสร้างโอกาสส่งออกให้กับสินค้าไทย ที่ประเทศอินเดีย วันที่ 18 ม.ค.2563 ว่า ผลการดำเนินการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าอินเดียเพื่อนำเข้าสินค้าจากไทย มีการทำการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างกัน และยังได้ทำการเปิดตัวสินค้าไทยในเว็บไซต์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียชื่อ Bigbasket.com ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการค้าได้รวมประมาณ 1,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการ แยกเป็น การขายไม้ยางพารา 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท ขายมันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท ขายกาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท ขายเฟอร์นิเจอร์ อาหาร และเคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท ส่วนเปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
นายจุรินทร์กล่าวว่า ในการเดินทางไปครั้งนี้ ยังได้มีโอกาสพบกับนายคาลวากุลท์ลา ทารากา รามา เรา รัฐมนตรีบริหารเทศกิจ พัฒนาชุมชนเมือง อุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและพาณิชย์ แห่งรัฐเตลังกานา (รัฐมนตรีพาณิชย์แห่งรัฐ) และได้มีความเห็นร่วมกันในการหาลู่ทางในการทำความตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์และรัฐเตลังกานา เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกงสุลใหญ่ของไทยที่เมืองเจนไน เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นต่างๆ ของความร่วมมือ
สำหรับตัวอย่างที่ได้หยิบยกมาในการหารือ เช่น ความร่วมมือในการส่งเสริมนโยบาย Plastic ban ซึ่งแป้งมันสำปะหลังสามารถนำมาทำพลาสติกชีวภาพในอินเดียได้ และนโยบาย Housing for all หรือการให้คนอินเดียมีบ้านอยู่ทุกคน ซึ่งไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์จากไทยสามารถส่งออกมาเพื่อการนี้ได้ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมยา ซึ่งไฮเดอราบัดที่เป็นเมืองหลวงของรัฐเตลังกานา เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยา ซึ่งใช้แป้งมันสำปะหลังมาผลิตยา จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการแป้งมันของไทย รวมถึงนโยบายของรัฐเตลังกานาที่จะสร้าง Furniture park ขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์ไทยอีกเช่นกัน
รัฐเตลังคานา มีชื่อเสียงใน 14 สาขาธุรกิจ เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยี IT โดยบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดในโลก เช่น แอปเปิล อเมซอน กูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ มีออฟฟิศที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นี่ และยังเป็นศูนย์กลางวัคซีนของโลก ผลิตวัคซีน 1 ใน 3 ของโลก รวมทั้งสาขาโลจิสติกส์ และสิ่งทอก็มีศักยภาพ คนที่นี่ชอบอาหารไทย อาหาร ท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ รัฐเตลังกานาไม่มีทางออกทะเล รัฐจึงให้การอุดหนุนต้นทุนการขนส่ง 5 ปีแรก และสำคัญ คือ เศรษฐกิจที่นี่ขยายตัว 2 เท่าของเศรษฐกิจอินเดีย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการ แยกเป็น การขายไม้ยางพารา 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท ขายมันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท ขายกาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท ขายเฟอร์นิเจอร์ อาหาร และเคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท ส่วนเปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
นายจุรินทร์กล่าวว่า ในการเดินทางไปครั้งนี้ ยังได้มีโอกาสพบกับนายคาลวากุลท์ลา ทารากา รามา เรา รัฐมนตรีบริหารเทศกิจ พัฒนาชุมชนเมือง อุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและพาณิชย์ แห่งรัฐเตลังกานา (รัฐมนตรีพาณิชย์แห่งรัฐ) และได้มีความเห็นร่วมกันในการหาลู่ทางในการทำความตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์และรัฐเตลังกานา เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกงสุลใหญ่ของไทยที่เมืองเจนไน เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นต่างๆ ของความร่วมมือ
สำหรับตัวอย่างที่ได้หยิบยกมาในการหารือ เช่น ความร่วมมือในการส่งเสริมนโยบาย Plastic ban ซึ่งแป้งมันสำปะหลังสามารถนำมาทำพลาสติกชีวภาพในอินเดียได้ และนโยบาย Housing for all หรือการให้คนอินเดียมีบ้านอยู่ทุกคน ซึ่งไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์จากไทยสามารถส่งออกมาเพื่อการนี้ได้ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมยา ซึ่งไฮเดอราบัดที่เป็นเมืองหลวงของรัฐเตลังกานา เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยา ซึ่งใช้แป้งมันสำปะหลังมาผลิตยา จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการแป้งมันของไทย รวมถึงนโยบายของรัฐเตลังกานาที่จะสร้าง Furniture park ขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์ไทยอีกเช่นกัน
รัฐเตลังคานา มีชื่อเสียงใน 14 สาขาธุรกิจ เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยี IT โดยบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดในโลก เช่น แอปเปิล อเมซอน กูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ มีออฟฟิศที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นี่ และยังเป็นศูนย์กลางวัคซีนของโลก ผลิตวัคซีน 1 ใน 3 ของโลก รวมทั้งสาขาโลจิสติกส์ และสิ่งทอก็มีศักยภาพ คนที่นี่ชอบอาหารไทย อาหาร ท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ รัฐเตลังกานาไม่มีทางออกทะเล รัฐจึงให้การอุดหนุนต้นทุนการขนส่ง 5 ปีแรก และสำคัญ คือ เศรษฐกิจที่นี่ขยายตัว 2 เท่าของเศรษฐกิจอินเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น