รู้ไว้ก่อนอย่ารอให้ผิวแห้ง! 6 วิธีดูแล
ผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น
ลมหนาวมาเยือนแล้ว สาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจเสี่ยงกับผิวแห้งได้ง่าย แต่สาวๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องผิว ก็มีโอกาสผิวแห้งได้เหมือนกัน หน้าหนาวจะเป็นช่วงที่อากาศแห้ง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องสภาพแวดล้อม เช่น การอยู่ในห้องแอร์นานๆ ดังนั้น อย่ารอให้ผิวของเราแห้ง เราต้องเตรียมความพร้อมและดูแลผิวอย่างถูกวิธี
เพื่อการดูแลผิวได้อย่างถูกวิธี แพทย์หญิงพนิดา จรรย์ศุภรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จาก AddlifeAnti-Aging Center ได้ให้ข้อมูลว่า ผิวแห้งคือสภาวะของผิวที่มีความไม่สบายตัวอาจมาด้วยอาการแห้งคันแสบแดงหรือลอกเป็นขุยๆ อาการจะเป็นมากหรือน้อยขึ้นกับระดับความแห้งและความกว้างของบริเวณผิวที่มีอาการ ซึ่งสาเหตุโดยทั่วไปการเกิดผิวแห้งมักเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน โดยแบ่งคร่าวๆ ได้เป็นปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน
สาเหตุของผิวแห้งส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอก ข้อดีคือการแก้ปัญหาผิวแห้งที่เกิดจากปัจจัยภายนอกสามารถแก้ได้ง่ายกว่า เพราะตัวอย่างปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ได้แก่ อากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งผิวแห้งจะเกิดในช่วงที่มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำความชื้นในอากาศน้อย ส่งผลทำให้เกิดผิวแห้ง เช่น เวลาไปต่างประเทศอุณหภูมิติดลบ จะมีปัญหาผิวแห้งง่าย หรือสาวๆ ที่อยู่ในออฟฟิศ นั่งอยู่ในห้องแอร์นานๆ ก็ทำให้ผิวแห้งได้เช่นกัน อีกทั้งการอาบน้ำด้วยน้ำร้อนจัด การใช้สบู่ หรือสารทำความสะอาดผิวที่รุนแรงไปก็จะไปทำลายน้ำมันที่มีอยู่ตามธรรมชาติในชั้นผิว
ส่วนปัจจัยภายใน ได้แก่ สุขภาพโดยรวม อายุ โรคประจำตัว เช่น มีประวัติเป็นผื่นแพ้ผิวหนังตั้งแต่เด็ก หรือคนที่มีภาวะการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ โรคเบาหวานก็มักพบมีผิวแห้งง่ายการกินยา ทายาบางชนิดก็มีผลทำให้ผิวแห้งเช่นกัน เช่น การกินยารักษาสิว หรือยาที่ลดการเกิดสิวบางตัว การขาดสารอาหารบางตัว เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซีซิงค์ ก็ทำให้ผิวแห้งเช่นกัน
“ลักษณะของผิวแห้งจะมีอาการคัน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในบริเวณที่มีผิวแห้ง ผิวมีความหยาบกร้าน จับดูแล้วไม่เรียบอาจแห้งลอกเป็นขุยๆ ถ้าเป็นมากอาจมีอาการแสบแดงเหมือนผิวหนังอักเสบ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังตามมาได้ ตำแหน่งที่เกิดผิวแห้งได้บ่อย คือใบหน้า มือ แขน ขาล่างอาการผิวแห้งโดยทั่วไปสามารถดีขึ้นได้เมื่อมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือลดปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแห้งขึ้น
แต่หากเมื่ออาการไม่ดีขึ้นเลยแม้ทำทุกวิถีทางแล้ว มีอาการคันมากจนรบกวนการนอนหลับ อาการผิวแห้งมาพร้อมกับอาการอักเสบ เช่น แสบแดง ร้อน หรือบวม มีอาการคันมากเกาจนเป็นแผลมีลักษณะเสี่ยงต่อการติดเชื้อผิวที่แห้งมีบริเวณกินพื้นที่กว้างมาก ผิวหนังหลุดลอกเป็นแผ่น หรือเป็นขุย ลักษณะเช่นนี้ควรรีบไปปรึกษาแพทย์”
ทั้งนี้ ใครๆ ก็อาจเกิดภาวะผิวแห้งขึ้นได้ แต่คนที่มีความเสี่ยงจะเกิดผิวแห้งได้ง่ายนั้น คือคนที่มีอายุเกิน 40 ปี เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังก็จะมีโอกาสสูญเสียความชุ่มชื้นได้มากขึ้น รวมทั้งคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นหรืออยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน หรือคนที่ต้องทำงานที่ต้องสัมผัสน้ำหรือสารเคมี เช่นพนักงานล้างจาน ช่างสระผมเป็นต้น การทำงานหรือมีกิจกรรมกลางแจ้งต้องตากแดดเป็นเวลานาน ก็ทำให้ผิวแห้งเสียความชุ่มชื้นได้ แม้กระทั่งการว่ายน้ำโดยเฉพาะสระน้ำประเภทคลอรีน หากว่ายน้ำเป็นประจำ ผิวก็จะแห้งได้เช่นกัน
ข้อแนะนำและการดูแลเบื้องต้นสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ดังนี้ 1.พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้งเช่นการอาบน้ำร้อนจัดการใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไป 2.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่หนาวจัดหรือร้อนจัดจนเกินไป 3.หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือสารที่อาจทำอันตรายต่อชั้นผิว 4.ทาครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอโดยการเลือกครีมที่ใช้ควรเป็นครีมที่เน้นให้ความชุ่มชื้นไม่ผสมน้ำหอมกลิ่นฉุน หรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวมีการระคายเคืองเช่น Paraben, Alcohol เป็นต้น 5.ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่พอเหมาะ6.สารอาหารหลายชนิดช่วยให้ผิวแข็งแรงยกตัวอย่าง เช่น วิตามินเอ บี ซี แร่สังกะสี เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อสาวๆ รู้ต้นเหตุของผิวแห้งแล้ว ควรหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกันอย่ารอให้ผิวแห้งแล้วค่อยดูแล เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น