"ซีอีโอหัวเว่ย: เราพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐฯ ในปีนี้” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563

"ซีอีโอหัวเว่ย: เราพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐฯ ในปีนี้”

ซีอีโอหัวเว่ย: เราพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐฯ ในปีนี้

 "ซีอีโอหัวเว่ย: เราพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐฯ ในปีนี้”

กรุงเทพฯ/24 มกราคม 2563 – ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย มร. เหริน เจิ้งเฟย แสดงความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการกีดกันเพิ่มเติ่มจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในอนาคต “ด้วยประสบการณ์และบทเรียนที่เราได้รับจากปีที่แล้ว เรามั่นใจว่าจะต้านทานการโจมตีของอเมริกาในปีนี้ได้อีกครั้ง” ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวกับนักธุรกิจและนักการเมืองชั้นนำจากทั่วโลก ในการประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

มร. เหริน ซึ่งได้ร่วมพูดคุยในเวทีเสวนาเรื่อง “A Future Shaped by a Technology Arms Race” ได้ประกาศว่าการใส่ชื่อหัวเว่ยไว้ในบัญชีดำทางการค้าของสหรัฐฯ (Entity List) ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อธรุกิจของบริษัท และต้องขอบคุณการแบนของสหรัฐฯ ที่ทำให้บริษัทได้สร้างทีมที่เก่งและเข้มแข็งขึ้นกว่าเคย  พร้อมคาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อขัดขวางการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5ของหัวเว่ย แต่บริษัทได้เตรียมการรับมือแผนการโจมตีทุกรูปแบบไว้เป็นอย่างดี  “ปีนี้ สหรัฐฯ อาจจะยกระดับการโจมตีหัวเว่ยขึ้นไปอีก แต่ผมมองว่าเราคงไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก” มร. เหริน บอกกับผู้เข้าร่วมงานในเมืองดาวอส

มร. เหรินเผยว่าตนรู้มาตั้งแต่แรกว่าการก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ ครองแชมป์อยู่เป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยนัก เมื่อ 20 ปีก่อน หัวเว่ยจึงได้ทุ่มเงินทั้งหมดที่เหลืออยู่ของบริษัท ณ ตอนนั้น ไปกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีแผนสำรองมารองรับอยู่เสมอหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น  “เราใช้เงินไปหลายแสนล้านหยวนเพื่อการเตรียมตัวและตั้งรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสิ่งที่เราได้กลับมาจากความทุ่มเท คือการรอดพ้นจากการโจมตีครั้งแรกของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว” ผู้ก่อตั้งวัย 75 ปีกล่าว

ตัวเลขการเติบโตขึ้นถึง 18 ของหัวเว่ยในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้แค่อยู่รอด หากแต่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์อันยากลำบาก  ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้นำด้านธุรกิจ 5ของโลก และเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตทั้งโทรศัพท์มือถือ สถานีฐาน ไฟเบอร์ออฟติก ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของCore Network สำหรับ 5และยังเป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิบัตรของเทคโนโลยี 5Gมากเป็นอันดับที่ 1
ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนสิทธิบัตร 5
ทั้งหมด

ซีอีโอของหัวเว่ยยังได้เปิดเผยว่า แม้ว่าหัวเว่ยจะถูกแบน บริษัทยังเป็นแฟนตัวยงของแนวทางการบริหารธุรกิจของอเมริกา สาเหตุที่หัวเว่ยประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ก็เพราะบริษัทมักเรียนรู้การบริหารจัดการมาจากบริษัทอเมริกัน “บริษัทอเมริกันมีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จ จริง ๆ แล้วสหรัฐฯ ควรจะภูมิใจ” มร. เหรินกล่าว

เขายังได้ย้ำว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีและไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว  “สหรัฐฯ ควรจะกังวลเรื่องเราและการเติบโตของเราในระดับโลกให้น้อยลง” มร. เหริน กล่าว เพราะในที่สุดแล้ว เขาเชื่อว่าประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากสังคมที่เปี่ยมไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

-จบ-

เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคมไอทีสมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด 
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่www.huawei.com

ติดตามเราได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad