“พาณิชย์”ตั้งเงื่อนไขเข้ม หลังผู้ผลิตอ้อนขอส่งออก พร้อมขีดเส้นแจ้งสต๊อก 14 ก.พ.นี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

“พาณิชย์”ตั้งเงื่อนไขเข้ม หลังผู้ผลิตอ้อนขอส่งออก พร้อมขีดเส้นแจ้งสต๊อก 14 ก.พ.นี้

img

กรมการค้าภายในหารือผู้ส่งออกหน้ากากอนามัย 50 ราย ขอผ่อนผันส่งออกสเปกต์พิเศษที่คนทั่วไปไม่ได้ใช้ อย่างหน้ากากผ่าตัด ป้องกันสารพิษ เตรียมเสนอ “จุรินทร์”เคาะ พร้อมเงื่อนไข หากให้ส่งออกสเปกต์พิเศษ ต้องผลิตแบบธรรมดาให้เท่ากับที่ส่งออกเพื่อขายในประเทศ ส่วนการบริจาค ต้องแบ่งครึ่งหนึ่งไว้ใช้ในประเทศ เผยแค่ 4 วัน ขอส่งออกรวม 21 ล้านชิ้น ยังไม่ได้ให้ใครส่งออก ขีดเส้น 14 ก.พ.นี้ ต้องแจ้งสต๊อก ใครไม่แจ้งเจอเอาผิดตามกฎหมาย
        
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ส่งออกหน้ากากอนามัย ประมาณ 50 ราย และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) องค์การเภสัชกรรม กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาในประเด็นการส่งออกหน้ากากอนามัย ว่า ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.2563 ซึ่งเป็นวันที่กำหนดให้การส่งออกหน้ากากอนามัยตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป ต้องขออนุญาตจากกรมฯ ก่อน จนถึงวันที่ 12 ก.พ.2563 มีผู้มาขออนุญาตรวม 21 ล้านชิ้น แต่กรมฯ ยังไม่อนุญาตให้รายใดส่งออกได้ เพราะต้องบริหารจัดการให้ในประเทศมีเพียงพอใช้ก่อน โดยในการหารือ ผู้ส่งออกได้ขอให้กรมฯ ผ่อนผันให้สามารถส่งออกได้ โดยเฉพาะการส่งออกหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ เช่น หน้ากากอนามัยทางการแพทย์สำหรับการผ่าตัด ใช้โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันสารเคมี หรือวัตถุมีพิษ เป็นต้น ซึ่งกรมฯ ได้รับที่จะพิจารณาให้ แต่มีเงื่อนไข ผู้ส่งออกและผู้ผลิตจะต้องผลิตหน้ากากอนามัยแบบที่ใช้ป้องกันเชื้อโรคในปริมาณเท่ากับที่ขอส่งออก เพื่อนำมาขายในประเทศ

ส่วนหน้ากากอนามัยที่ขออนุญาตส่งออกเพื่อนำไปบริจาคให้กับประเทศที่มีการแพร่ระบาด เช่น จีน หากจะอนุญาตการส่งออก ผู้ส่งออกจะต้องแบ่งส่วนหนึ่งมาให้กับศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนำไปจัดสรรภายในประเทศให้กับผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้ เช่น โรงพยาบาล ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยตรง โดยอาจจะขอแบ่งในสัดส่วน 50 ต่อ 50 โดยหากส่งออก 500,000 ชิ้น ต้องจัดสรรให้ศูนย์ 250,000 ชิ้น ส่งออกได้ 250,000 ชิ้น เป็นต้น

“ผู้ผลิตและผู้ส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมดรับที่จะทำตามกติกา เพื่อให้มีของส่งออกไปได้ และมีของใช้เพียงพอในประเทศ โดยผมจะนำข้อเสนอนี้หารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก่อนว่าจะเห็นด้วยตามนี้หรือไม่”

ส่วนหน้ากากอนามัยที่จะขอส่งออกทั้ง 21 ล้านชิ้นนั้น พบว่า เกือบจะทั้งหมดเป็นหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ไม่ใช่สเปกต์พิเศษ โดยขอส่งออกไปจีน 15 ล้านชิ้น ไปสหรัฐฯ 3.6 ล้านชิ้น ที่เหลือไปประเทศอื่นๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้มีการส่งออกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ผลิตที่ยังไม่ได้แจ้งสต๊อกให้กับกรมฯ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ภายในวันที่ 6 ก.พ.2563 ที่ผ่านมานั้น กรมฯ ได้ให้เวลาแจ้งสต๊อกถึงวันที่ 14 ก.พ.2563 เพื่อจะได้รู้ว่าผู้ผลิตมีสต๊อกที่แท้จริงเท่าไร หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และยังปรับอีกวันละ 2,000 บาทตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad