บทบาทของความปลอดภัยใน 5G ที่เปลี่ยนไป - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

บทบาทของความปลอดภัยใน 5G ที่เปลี่ยนไป


บทบาทของความปลอดภัยใน 5G ที่เปลี่ยนไป
ความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายสื่อสาร 4G นั้นเป็นการปกป้องแกนหลักของเครือข่าย (Core Network) ซึ่งมีความเสถียรสูง ป้องกันจุดเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ กับระบบย่อยของเครือข่าย เช่น ระบบ IMS และปกป้องการใช้โปรโตคอลที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่นำมาใช้ตอบสนอง แต่เครือข่าย 5G นั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง สภาพแวดล้อมของ 5G เป็นการใช้งานของเทคโนโลยีเสมือนตั้งแต่ส่วนขอบของเครือข่ายที่เรียกว่าเอดจ์ (Edge) ถึงส่วนแกนที่เรียกว่าคอร์ (Core) โดยใช้ฟังก์ชั่นเครือข่ายเสมือน (Virtual Network Functions: VNFs) เพื่อส่งมอบบริการที่ผู้ให้บริการต้องการให้ไปสู่ลูกค้าปลายทางได้อย่างราบรื่น
          ในเครือข่าย 5G ผู้ให้บริการสามารถเสนอบริการและธุรกิจที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างรายได้ขององค์กรให้มากขึ้น นอกจากนี้ ระบบนิเวศด้านดิจิทัลที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาจะผลักดันให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องปฏิรูปตนเองและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ขยายขีดความสามารถและสร้างให้กรณีใช้งานใหม่ๆ (Use cases) อาทิ IoT และอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่เป็นจริงให้ได้

บทบาทของความปลอดภัยใน 5G ที่เปลี่ยนไป
          Heavy Reading เผยผลสำรวจลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยสำหรับ 5G ในช่วงทดลองใช้
          ก่อนที่จะถึงการใช้เครือข่าย 5G ในเชิงพาณิชย์นั้น ผู้ให้บริการจำเป็นต้องทดสอบด้านความปลอดภัย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อทำความเข้าใจในกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยของผู้ให้บริการ 5G Fortinet(R) (NASDAQ: FTNT) ฟอร์ติเน็ตผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบครบวงจรแบบอัตโนมัติและครบวงจรและผู้ผลิตอีก 4 รายการจึงตัดสินใจเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรมการสำรวจออนไลน์ และมอบให้ Heavy Reading (บริษัทวิจัยในเครือของ Light Reading สื่อดิจิทัลระดับโลกที่ให้บริการข่าวสาร วิเคราะห์ และข้อมูลเชิงลึกประจำวันสำหรับเครือข่ายการสื่อสารและบริการทั่วโลก) พัฒนาและดำเนินการสำรวจในไตรมาส 1 ปีค.ศ. 2019 โดยได้ส่งอีเมลสอบถามไปยังพนักงานของผู้ให้บริการทั่วโลกที่เป็นสมาชิกของ Light Reading ท้ายสุดแล้ว พบว่ากลุ่มตัวอย่างของพนักงานกลุ่มใหญ่ที่สุดมาจากสหรัฐอเมริกา (48%) ตามด้วยในเอเชียแปซิฟิก (19%) ยุโรปตะวันออก/กลาง (15%) ยุโรปตะวันตก (7%) แคนาดา (6%) อเมริกากลาง/ใต้ (4) %) และแอฟริกา (1%)
          คำถามในส่วนแรกของการสำรวจมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมการทดสอบเครือข่าย โดยขอให้ผู้ตอบแบบสำรวจจัดลำดับความสำคัญในการทดสอบด้านความปลอดภัยของเครือข่าย 5G สำหรับกรณีการใช้งาน (5G security use case priority) ทั้งนี้ ผลที่ได้มาในภาพที่ 1 จะแสดงให้เห็นถึงลำดับความสำคัญสูงสุด 2 อันดับแรก อันได้แก่ ความปลอดภัยของส่วน Narrowband Internet of Things (NB-IoT) (59%) และความปลอดภัยของ Edge cloud (57%) ตามด้วยการรักษาความปลอดภัยเฉพาะส่วน (40%) และความปลอดภัยในภาครับ-ส่งสัญญาณในเครือข่าย Roaming GRX/IPX (32%) ซึ่ง Heavy Reading เห็นว่าการให้คะแนนเหล่านี้เป็นน่าจะเป็นจริง เนื่องจากส่วน Edge cloud นั้นจะเป็นพื้นฐานสำหรับการให้บริการใหม่ๆ ที่มีการใช้งานมาก เช่น NB-IoT นั่นเอง
          เรื่องการป้องกันภัยเครือข่ายจึงต้องมีบทบาทสำคัญในทุกบริการ
          ทั้งนี้ ในการขยายบริการและกรณีการใช้งานต่างๆ ใน 5G จะเป็นการเปิดหน้าพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงถูกโจมตีของผู้ให้บริการ ลูกค้า คู่ค้าให้กว้างมากขึ้น นอกจากนี้ นวัตกรรมในระบบนิเวศดิจิทัลที่เกิดจากการประสานงานของลูกค้า คู่ค้า เทคโนโลยีและบริการที่ใหญ่มากขึ้นจะท้าทายความสามารถให้อาชญากรไซเบอร์เอาชนะและค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการเจาะ คุกคามและใช้ประโยชน์จากจุดที่อ่อนแอให้สำเร็จ ส่งให้ระบบความปลอดภัยจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญในทุกบริการใหม่ๆ ดังกล่าวเพื่อให้ผู้ให้บริการมั่นใจว่าระบบนิเวศดิจิทัลทุกระบบมีความพร้อมในการใช้งาน สมบูรณ์และมีความต่อเนื่องกลมกลืนเข้าหากัน

          ผู้ให้บริการจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างมากกับบทบาทของความปลอดภัยใน 5G ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนี้
          - โซลูชั่นด้านความปลอดภัยใหม่นี้จำเป็นต้องรองรับเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะนำมาใช้เพื่อปกป้องบริการทั้งหลายที่กำลังถูกเร่งพัฒนาให้เติบโตและทรัพย์สินที่มีมูลค่าทั้งหลาย
          - ความปลอดภัยจะต้องสามารถช่วยตรวจสอบความต่อเนื่องของบริการและกรณีการใช้งานให้ทำงานได้ตามที่ประกันไว้ (SLA) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ให้บริการต้องการในการสร้างความน่าเชื่อถือ
          - ความปลอดภัยยังต้องสามารถปกป้องลูกค้าของผู้ให้บริการได้: เนื่องจากระบบ 5G เปิดกว้างและบูรณาการเข้ากับบริการของบุคคลที่สาม ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการป้องกันความปลอดภัยลงลึกไปในฟังค์ชั่น VNF เพื่อให้มีศักยภาพตั้งแต่เริ่มต้นทุกจุดในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับแอปพลิเคชั่นให้กับลูกค้าได้
          - ความปลอดภัยจะต้องช่วยสร้างความแตกต่างและสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับผู้ให้บริการได้
          ฟอร์ติเน็ตสามารถปกป้องบริการและการใช้งานของลูกค้าได้ ตั้งแต่การเชื่อมต่อ แอปพลิเคชั่นไปจนถึงในแพลตฟอร์มและบนคลาวด์
          ฟอร์ติเน็ตให้ความสำคัญทั้งความปลอดภัยในเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมที่ผู้ให้บริการใช้และพัฒนาขึ้นมา ให้ความสำคัญถึงเครื่องมือด้านความปลอดภัยที่จำเป็นในการป้องกันบริการและการใช้งานต่างๆ ของลูกค้าตั้งแต่ต้นทางคือการเชื่อมต่อ แอปพลิเคชั่นที่ใช้งาน ไปจนถึงแพลตฟอร์มและคลาวด์ ได้ดังนี้ คือ:
          - ในด้านเชื่อมต่อ (Connectivity)
             - ฟอร์ติเน็ตได้จัดโซลูชั่น Secure SD-WAN ที่ให้การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ที่ปลอดภัยและล้ำสมัยไว้เรียบร้อยแล้ว จึงช่วยให้ผู้ให้บริการใช้แพลตฟอร์มเดียวให้บริการ SD-WAN ที่ปรับขนาดได้และมีความปลอดภัยสูงให้กับลูกค้าองค์กร ส่งให้ผู้ให้บริการมีรายได้และผลตอบแทนจากการลงทุนคืนมารวดเร็วมากขึ้น
             - ให้การบริการเชื่อมโยงสาขา (Secure SD-Branch) ที่ให้ทั้งความปลอดภัยสูงและคุณสมบัติในการบริหารเครือข่ายสำหรับสาขาที่ครบถ้วน อันรวมถึง การจัดการระบบไวไฟ อุปกรณ์สวิชต์ (LAN switching) และการควบคุม IoT ส่งให้เครือข่ายองค์กรมีการทำงานของ WAN edge ได้อย่างเบ็ดเสร็จ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้องค์กรมีศักยภาพในการมองเห็นลึกลงไปในเครือข่าย มีศักยภาพการป้องกันภัยไซเบอร์และมีการควบคุมที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่ต้นทางที่พนักงานขององค์กร อุปกรณ์ที่ใช้งาน เครือข่ายของสาขา ไปยังระบบ WAN จนออกสู่ระบบคลาวด์สาธารณะแบบเอ็น-ทู-เอ็น
          - ความปลอดภัยในระดับชั้นประมวลผลข้อมูล (Data plane) และระดับควบคุม (Control plane) สำหรับ 4G รวมไปจนถึงช่วงการทดลองและใช้งานในเชิงพาณิชย์ถึง 5G
             - อันจะช่วยปกป้องผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารให้พ้นจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระหว่างการย้ายจาก 4G ไปยัง 5G อีกทั้งยังช่วยให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมที่พัฒนาขึ้นมานั้นจะทำงานได้ราบรื่นและเต็มประสิทธิภาพ
          - ปกป้องกรณีการใช้งานที่เป็นเฉพาะอุตสาหกรรมบน 5G ได้ เช่น สมาร์ทแมนูแฟเจอริ่ง สมาร์ทออโต้โมทีฟ ซึ่งเป็นบริการเสริมจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่าย 4G/5G นอกเหนือไปจากบริการเชื่อมโยงของโทรศัพท์มือถือ

          ดังนั้น บทบาทของความปลอดภัยสำหรับเครือข่าย 5G ใหม่จึงเปลี่ยนไป มีการปรับปรุง ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันในการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ โซลูชั่นด้านความปลอดภัยของฟอร์ติเน็ตสำหรับ 4G และ 5G ประกอบไปด้วยโซลูชั่นและเครื่องมือที่ทำงานหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างกลมกลืน จึงสามารถช่วยผู้ให้บริการโอนย้ายระบบจาก 4G เป็น 5G ได้อย่างปลอดภัย มั่นใจได้ว่าโครงสร้างพื้นฐาน 5G ปลอดภัยและสามารถจัดให้กรณีการใช้งานมีความปลอดภัยสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad