เดินตามทฤษฎีพอเพียง ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-ไวรัส - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดินตามทฤษฎีพอเพียง ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-ไวรัส


เดินตามทฤษฎีพอเพียง ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-ไวรัส
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ “COVID-19” ที่มีจุดกำเนิดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ได้ขยายวงกว้างไปหลายประเทศทั่วโลก
ที่สำคัญ การแพร่ระบาดของโรคได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจหลายแขนง มิใช่เฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดซัพพลายเชน ซึ่งประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร เครื่องดื่ม เกษตรกรที่ขายวัตถุดิบให้ร้านอาหาร รถทัวร์ ปั๊มน้ำมัน มัคคุเทศก์ ร้านขายของที่ระลึก ห้าง ร้านที่ขายสินค้า-อุปโภคทั้งค้าปลีกและค้าส่ง ผู้รับเหมา ธุรกิจเครื่องเสียง อุปกรณ์ สถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ ฯลฯ เท่านั้น
แต่ได้ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าต่าง ๆ ด้วย เนื่องจากประเทศจีนถือเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบหลัก ส่งไปให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เยื่อกระดาษ ฟอกหนัง ฯลฯ
วันนี้หลายโรงงานในหลายธุรกิจกำลังเร่งหาซัพพลายวัตถุดิบจากประเทศผู้ผลิตอื่นนำเข้ามาทดแทน นั่นหมายถึง “ต้นทุน” การผลิตที่สูงขึ้น แต่ยังดี หากวัตถุดิบประเภทนั้นมีผู้ผลิตในประเทศอื่น
จากการพูดคุยกับโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งพบว่า สินค้าบางชนิดมีผลิตเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น เช่น บริษัทผลิตเคมีที่ใช้ทำสีดำให้กับผลิตภัณฑ์ เครื่องอุปโภคต่าง ๆ ที่มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในเมือง “อู่ฮั่น” จะส่งผลกระทบให้เกิดการ “ชอร์ตของซัพพลาย”
รวมถึงธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าต่าง ๆ หลายประเทศยกเลิก แต่บางแห่งได้เตรียมการไปแล้ว ยกเลิกไม่ทัน เช่น “งาน Simac Tanning Tech 2020” ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 19-20 ก.พ.นี้
โดยผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจไทยท่านหนึ่งได้ยกเลิกการเดินทางไปดูงานหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า เล่าให้ฟังว่า “เนื่องจากทางประเทศอิตาลีระวังกันมาก แต่ได้เตรียมจัดงานทุกอย่างเดินหน้าจนยกเลิกไม่ได้แล้ว วิธีการแก้ปัญหา คือ คนจัดงานแฟร์สั่งบังคับเลยว่า บูทที่เป็นของคนจีนทั้งหมด ยกเลิกไม่ให้เข้ามาในงาน คนจีนทั้งหมดไม่ให้เข้ามาในงาน โดยอิตาลีมีการตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินเหมือนไทย แต่โรงแรมที่จองห้องพักไว้แจ้งว่า ถ้าลูกค้าที่เข้ามามีไข้ขึ้น ต่อให้จองที่พักโรงแรมไว้แล้ว โรงแรมจะไม่รับ รวมถึงที่เยอรมนี หากมีงานจะชุมนุมกัน ก็ยกเลิกกันไป”
พร้อมทิ้งท้ายว่า “หลังจากนี้ 1 เดือนจะมีผลกระทบหลายอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบเรื่องระบบการผลิต เนื่องจากประเทศจีนเป็นเหมือนโรงงานผลิตสินค้าส่งวัตถุดิบให้ทั่วโลก ทั้งสินค้านำเข้าและส่งออกจะกระทบกันทั้งหมด”
ปัจจุบันความน่ากลัวที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค อาจจะยังไม่น่ากลัวเท่า “การอดตาย” ของคนหลายแสนชีวิตที่กำลังจะตกงาน ขาดรายได้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่ให้บริการแต่นักท่องเที่ยวจีน 100% หลายพันรายกำลังล้มกันระเนระนาด ปิดตัวไปแล้วมากมายในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่
โดยเฉพาะธุรกิจบริการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจรถทัวร์ “ชอร์ตเงิน” ทันที นั่นหมายถึง ไม่มีเงินจ่ายพนักงาน ไม่มีเงินผ่อนภาระหนี้กับสถาบันการเงิน ไม่มีเงินผ่อนไฟแนนซ์ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าตึก ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น ทำให้นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวชาติอื่น รวมถึงคนไทยเอง อยากหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ถ้าไม่จำเป็น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยิ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นทุกวัน และนักวิทยาศาสตร์เองได้เปิดเผยข้อมูลให้เห็นว่า “ไวรัสเริ่มกลายพันธุ์”
ขณะที่มาตรการช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่รัฐบาลเร่งออกมาเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในหลายจังหวัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้อานิสงส์เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กคงเข้าไม่ถึง เพราะโครงสร้างเอกสารระบบการเงินไม่พร้อม
ส่วนบริษัทใหญ่ที่พร้อมกู้เองไม่อยากกู้เพิ่มถึงแม้ดอกเบี้ยต่ำ เพราะช่วง 3 เดือนนี้คาดว่านักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา ไม่มีรายได้เข้ามา กลายเป็นสร้างหนี้ภาระก้อนใหม่ขึ้นมา เหมือนโยกเงินกู้จากธนาคารซ้ายไปจ่ายธนาคารขวา บริษัทไม่อยากสร้างภาระหนี้เพิ่ม แต่อยากให้หนี้ลดลงมากกว่า
ดังนั้น ข้อเสนอล่าสุดของภาคธุรกิจท่องเที่ยวหลายจังหวัดที่ออกมาตรงกันขณะนี้ คือ อยากให้ภาครัฐใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกจุด คือ “พักชำระหนี้” โดยไม่ติดแบล็กลิสต์กับเครดิตบูโรอย่างน้อย 3 เดือน แล้วค่อยเดินหน้ากันใหม่
อย่างไรก็ตาม หลากหลายปัญหาที่ถาโถมเข้ามา เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไปหวังพึ่งพิงรายได้จากการส่งออก 70% รายได้จากการท่องเที่ยว 20% รายได้จากภาคอื่น ๆ 10% เมื่อการส่งออกส่ออาการติดลบหนัก การท่องเที่ยววูบ สิ่งที่หวังพึ่งพิงได้ตอนนี้ ทุกคนคงต้องเร่งเดินตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ดำเนินชีวิตด้วยวิถีพอเพียง ลดความฟุ้งเฟ้อ พึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad