ในโครงการ “Central-UNICEF Together for Every Child” ปีที่ 4
กรุงเทพฯ – 13 กุมภาพันธ์ 2563 – องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จับมือกับ กลุ่มเซ็นทรัล สร้างสรรค์โครงการ “Central-UNICEF Together for Every Child” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ผ่านการจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิ ด #EatPlayLove กินให้เป็น เล่นให้สุด ไม่หยุดรัก ตอน “มหัศจรรย์ พลังครอบครัว” เน้นย้ำความสำคัญของครอบครัวที่ มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อย ทั้งในด้านของการเจริญเติ บโตทางร่างกายและด้านจิตใจ พร้อมเชิญ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้านมาพูดคุยเรื่องการเข้าใจและเลี้ ยงดูลูกน้อย ร่วมด้วยตัวแทนครอบครัวรุ่นใหม่ อย่าง คุณแม่
แฝดสอง นานา ไรบีนา และ พอลล่า เทย์เลอร์ บัทส์เทอรี่ ที่พาหนูน้อย ลูเอลล่า มาร่วมเผยการสร้างพลังแห่ งครอบครัวท่ามกลางความท้ าทายในยุคดิจิทัล พร้อมแชร์แนวทางการสร้ างรากฐานการพัฒนาลูกน้อยด้ วยการกิน การเล่น และความรัก ทีลานโปรโมชัน ชั้น 1ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
แฝดสอง นานา ไรบีนา และ พอลล่า เทย์เลอร์ บัทส์เทอรี่ ที่พาหนูน้อย ลูเอลล่า มาร่วมเผยการสร้างพลังแห่
ใส่ใจเรื่องการพัฒนาเด็กอย่างต่
ด้านนายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยสภาพสังคมที่เร่งรีบในปั จจุบัน ครอบครัวยุคใหม่อาจจะไม่ได้ดู แลเอาใจใส่ลูกน้อยอย่างเต็มที่ บวกกับความรุดหน้าทางเทคโนโลยี และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ ตลอดเวลา จนอาจทำให้การใช้เวลากับลูกน้ อยลงกว่าเดิม และส่งกระทบต่อการสร้างเสริมพั ฒนาการของเด็ก ผลสำรวจพบว่าเกือบ 1 ใน 5 ของเด็กไทยที่อายุน้อยกว่า 4 ปี ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ทั้งที่ เป็นวัยที่ต้องการดูแลอย่างใกล้ ชิด ในขณะเดียวกัน พ่อแม่จำนวนมากอาจยังขาดความเข้ าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยงลูก โดยยังมีพ่อแม่และผู้ดูแลเด็ กเกือบครึ่งที่เห็นว่ าการลงโทษทางร่างกายถือเป็ นการฝึกวินัยที่ดีให้กับเด็ก ดังนั้น หนึ่งในภารกิจหลัก
ของยูนิเซฟ คือการรณรงค์ให้ความรู้พ่อแม่ผู้ ดูแลเด็กถึงวิธีการเลี้ยงดูลู กที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย เพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุ ดเนื่องจากสมองพัฒนาอย่างรวดเร็ ว และเป็นโอกาสที่พ่อแม่ผู้ ปกครองจะสามารถวางรากฐานการเรี ยนรู้ให้กับเด็กไปตลอดชีวิตได้”
ของยูนิเซฟ คือการรณรงค์ให้ความรู้พ่อแม่ผู้
พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กล่าวว่า “พ่อแม่ผู้ปกครองควรเข้าใจเรื่ องการทำงานของสมองของเด็ กและธรรมชาติของเด็กว่า สมองของเด็กจะมีการพัฒนาส่ วนอารมณ์เร็วกว่าส่วนของเหตุผล หน้าที่ของพ่อแม่ คือการช่วยให้เด็กใช้สมองส่ วนเหตุผลมากขึ้น ช่วยให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์ ได้ดีขึ้นผ่านการเลี้ยงลูกเชิ งบวก ซึ่งมีหลักการอยู่ 4 ข้อ ได้แก่
1) การเข้าใจธรรมชาติของเด็ก 2) การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก เช่น ให้เวลาคุณภาพ กับเด็ก เล่น และทำกิจกรรมกับลูก
รับฟังลูก 3) การสื่อสารเชิงบวก การคุยกับลูกอย่างใจเย็นให้ลู กรู้สึกตนเองเป็นที่รัก มีพ่อและแม่อยู่เคียงข้าง และ
4) การฝึกวินัยเชิงบวกเพื่อให้ลู กรู้จักกติกาและรู้ว่าสิ่ งใดควรทำหรือไม่ควรทำ แทนที่จะลงโทษด้วยวิธีรุนแรง เช่น ตี ดุด่า ขู่ให้กลัว หรือเปรียบเทียบกับคนอื่น ซึ่งวิธีการเชิงลบนี้ จะส่งผลเสียต่อการพั ฒนาสมองและอาจส่งผลต่อพฤติ กรรมในระยะยาว”
1) การเข้าใจธรรมชาติของเด็ก 2) การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก เช่น ให้เวลาคุณภาพ กับเด็ก เล่น และทำกิจกรรมกับลูก
รับฟังลูก 3) การสื่อสารเชิงบวก การคุยกับลูกอย่างใจเย็นให้ลู
4) การฝึกวินัยเชิงบวกเพื่อให้ลู
เวลาลูกๆ อยากเล่นอะไร พอลล่าจะลงไปเล่นกับพวกเขาด้
ในปีนี้ งานเอ็กซ์โป #EatPlayLove มหัศจรรย์ พลังครอบครัว จะเวียนไปจัดที่ศูนย์การค้าเซ็ นทรัลมากกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็ นทรัลพลาซา ลาดพร้าวเป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่12-19 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่ วนหนึ่งของการรณรงค์ดูแลเด็กเล็ กในช่วงปฐมวัยอย่างถูกวิธี ผ่านการติดตามข้อมูลได้ที่ www.centralgroup.com และhttp://www.unicef.or.th/ eatplaylove
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น