นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมงานเสวนาเพื่อแถลงผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง จัดโดยคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมยุทธบริการทหาร แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซี่อ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยเข้าร่วมงานจำนวนมาก ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ ได้สรุปความคืบหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ ดังนี้
1.) พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ฯ ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562
2.) มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) 7 ท่าน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562
3.) คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563
4.) กมช. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กกม. และ กบส.
5.) สำนักงานฯ จะจัดตั้งแล้วเสร็จ เมื่อ กบส. วางระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับ สำนักงาน (โครงสร้างสำนักงาน, อัตรากำลัง, แผนปฏิบัติราชการของสำนักงาน ฯลฯ)
6.) แต่งตั้งเลขาธิการฯ และบรรจุพนักงาน
1.) พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ฯ ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562
2.) มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) 7 ท่าน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562
3.) คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563
4.) กมช. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กกม. และ กบส.
5.) สำนักงานฯ จะจัดตั้งแล้วเสร็จ เมื่อ กบส. วางระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับ สำนักงาน (โครงสร้างสำนักงาน, อัตรากำลัง, แผนปฏิบัติราชการของสำนักงาน ฯลฯ)
6.) แต่งตั้งเลขาธิการฯ และบรรจุพนักงาน
โดย "คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ" หรือ "กมช." (National Cyber Security Committee : NCSC) จะมีหน้าที่กำหนดนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ กมช. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 7 ท่าน
ด้านความคืบหน้า "ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย" สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 18 กุมภาพันธ์ 2563 พบข่าวที่ต้องตรวจสอบทั้งหมด 1,390 เรื่อง ส่วนประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พบว่ามีจำนวนเรื่องทั้งหมด 52 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 41 เรื่อง ข่าวจริง 10 เรื่อง บิดเบือน 1 เรื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ทำงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่ข่าวปลอมนั้น ๆ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงาน สามารถรวบรวมข้อมูลและแจ้งต่อ ศปอส.ตร. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในทางคดีต่อไป
ด้านความคืบหน้า "ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย" สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 18 กุมภาพันธ์ 2563 พบข่าวที่ต้องตรวจสอบทั้งหมด 1,390 เรื่อง ส่วนประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พบว่ามีจำนวนเรื่องทั้งหมด 52 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 41 เรื่อง ข่าวจริง 10 เรื่อง บิดเบือน 1 เรื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ทำงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่ข่าวปลอมนั้น ๆ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงาน สามารถรวบรวมข้อมูลและแจ้งต่อ ศปอส.ตร. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในทางคดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น