สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่! ต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ถุงพลาสติก สร้างทัศนคติต่อผู้บริโภคในการร่วม “ลด ละ เลิก ขยะพลาสติก” ตั้งแต่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นมา
ภายใต้นโยบายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศให้ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ภาคีเครือข่ายสมาชิก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย 90 แห่ง ที่มีช่องทางจำหน่ายมากกว่า 24,500 ช่องทาง เข้าร่วมโครงการ EVERYDAY SAY NO TO PLASTICS BAGS เลิกให้ถุงพลาสติกให้ลูกค้าอย่างถาวร!! ปลุกกระแส “พกถุงผ้าชอปปิง” หรือ ถุงพลาสติกอื่นๆ ที่นำกลับมาใช้ซ้ำหลายๆ ครั้งได้ เมื่อออกไปจับจ่าย
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุว่า จำนวนถุงพลาสติกหูหิ้ว 3,750 ล้านใบ! คือ จำนวนถุงที่ภาครัฐร่วมกับ ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่าย สามารถรณรงค์ให้ประชาชนงดรับได้ภายในเวลา 1 เดือน นับแต่เริ่มภารกิจใหญ่ 1 ม.ค. โดยการประเมินผลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-12 ก.พ. พบว่าร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายงดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วตามนโยบายภาครัฐ 97% อีก 3% เป็นการให้หรือจำหน่ายถุงชนิดอื่นๆ อาทิเช่น ถุงสปันบอนด์ ถุงผ้า ถุงพลาสติกรูปทรงอื่นที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ หรือ ถุงกระดาษ เป็นต้น
"นับเป็นโครงการ Kick Start ที่ดี!! นำสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนและผู้บริโภคอย่างจริงจัง มีการร่วมมือจากประชาชนเกินคาด มีการการพกถุงผ้าหรือถุงพลาสติกอื่นๆ ที่ใช้ซ้ำได้ไปซื้อของหรือจับจ่ายสินค้า"
ก่อนเริ่มโครงการ EVERYDAY SAY NO TO PLASTICS BAGS ในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจค้าปลีกได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่รณรงค์งดให้ งดรับถุงพลาสติกหูหิ้ว อย่างจริงจังทุกวันที่ 4 ของเดือน และเพิ่มความเข้มข้นขึ้น บางแห่งเพิ่มทุกวันอังคาร และพุธ บางแห่งงดให้ถุงพลาสติกโดยสิ้นเชิง
ทางด้าน “ผลกระทบ” ต่อมาตรการครั้งนี้ พบว่า 61% ให้ความร่วมมือ 36% เฉยๆ และไม่ให้ความร่วมมือมีเพียง 3% เท่านั้น
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในภาคปฏิบัติหน้างานผู้บริโภคส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ตระหนักรู้และเข้าใจเหตุและผลในการรณรงค์! และให้ความร่วมมือไม่รับถุงพลาสติก ด้วยการนำถุงผ้าหรือถุงพลาสติกอื่น รวมทั้งการสร้างสรรค์ถุงแบบต่างๆ จากวัสดุธรรมชาติและรีไซเคิล นำติดตัวมาจับจ่ายอย่างเป็นปกติ
อย่างไรก็ดี ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วของร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายจะมีเพียง “28%” ของปริมาณถุงพลาสติกหูหิ้วที่ใช้ภายในประเทศ
“เราเป็นผู้เริ่มต้น ซึ่งจะต้องช่วยกันขยายผลไปสู่อีกสองภาคส่วนที่ใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วที่เหลืออีก 72% ซึ่งก็คือ ร้านขายของชำ ตลาดนัด ตลาดสด”
ทั้ังนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยจะดำเนินการร่วมกับกรมส่งเสริมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ประเมินผลสัมฤทธิ์! เมื่อแคมเปญผ่านไปแล้ว 6 เดือน โดย 6 เดือนแรกนี้ ถือเป็นช่วงที่ร้านค้าและผู้บริโภคจะต้องปรับตัว ซึ่งส่งสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง
แม้จะมีบางภาคส่วน และภาคการผลิตถุงพลาสติก พิจารณาการแจกถุงพลาสติกหูหิ้ว ขนาดเกินกว่า 36 ไมครอน ซึ่งเป็นถุงหนาใช้ได้หลายครั้ง Reusable และกำหนดให้มี โครงการ “Drop Point” กับห้างค้าปลีกเพื่อให้ประชาชนนำถุง Reusable มาทิ้งเพื่อนำไป Recycle ต่อได้ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าปลีกภาคีเครือข่ายสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยทั้ง 90 แห่ง มุ่งเดินหน้าโครงการลดใช้ถุงพลาสติกใช้ครั้งเดียวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วอย่างถาวร ก้าวเข้าสู่การรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ที่มา - กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น