“พาณิชย์”เผยการค้าชายแดน-ผ่านแดน 3 เดือนปี 63 เจอพิษโควิด-19 ฉุดยอดวูบ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

“พาณิชย์”เผยการค้าชายแดน-ผ่านแดน 3 เดือนปี 63 เจอพิษโควิด-19 ฉุดยอดวูบ

img

กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 3 เดือนปี 63 มีมูลค่า 264,969 ล้านบาท ลดลง 7.64% เหตุได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำการค้าและการท่องเที่ยวชะงัก แถมไทยกับเพื่อนบ้านยังมีการปิดด่าน เปิดแค่ 25 จุดจาก 42 จุด ทำให้การค้าลดลง ระบุได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่อเนื่อง ทั้งเจรจามาเลเซีย กัมพูชา เปิดด่านเพิ่ม และร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้เรื่องขนส่งผลไม้ไปจีน           
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 3 เดือนของปี 2563 (ม.ค.–มี.ค.) มีมูลค่ารวม 264,969 ล้านบาท ลดลง 7.64% เป็นการส่งออก 187,564 ล้านบาท ลดลง 5.42% และการนำเข้า 77,405 ล้านบาท ลดลง 12.61% เกินดุลการค้า 110,159 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขยายวงกว้างไปในหลายๆ ประเทศ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยและเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยว จากการปิดจุดผ่านแดนถาวรของไทยที่เดิมมี 42 จุดทั่วประเทศ เปิดเพียง 25 จุด ทำให้เหลือช่องทางในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านน้อยมาก มูลค่าการส่งออกเลยลดลงอย่างชัดเจน
        
โดยในด้านการค้าชายแดน พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 56,475 ล้านบาท ลดลง 27.78% เป็นการส่งออก 25,731 ล้านบาท ลดลง 27.17% นำเข้า 30,744 ล้านบาท ลดลง 28.28% รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 42,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.43% กัมพูชา มูลค่า 48,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.01% และเมียนมา มูลค่า 48,167 ล้านบาท ลดลง 2.90% และด้านการค้าผ่านแดนไปยังจีนตอนใต้ หลังจากจีนเปิดประเทศจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 มีมูลค่าการค้าเพิ่มสูงถึง 28,626 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.88% เป็นการส่งออก 11,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.88% นำเข้า 17,327 ล้านบาท ลดลง 1.23% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 19,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.41% และเวียดนาม มูลค่า 13,538 ล้านบาท ลดลง 27.86%
        
นายกีรติกล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนของไทยมาโดยตลอด โดยกับมาเลเซีย ได้ขอเจรจาเพื่อผลักดันให้มาเลเซียเปิดด่านเพิ่มเติม (ทุกสินค้า) ได้แก่ ด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา และด่านปาดังเบซาร์ จ.สงขลา เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยไปมาเลเซีย ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ด่านสะเดา มีความแออัดบริเวณหน้าด่านเป็นอย่างมาก ส่วนกับกัมพูชา ได้ผลักดันให้เปิดด่านบ้านผักกาด จ.จันทบุรี เพื่อใช้เป็นช่องทางในการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับกัมพูชา
        
สำหรับสปป.ลาว ได้ประชาสัมพันธ์ระเบียบและแนวทางปฏิบัติระบบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและผ่านแดนของ สปป.ลาว ให้ผู้ประกอบการไทยได้รับทราบข้อมูลในช่วงนี้ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจาแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกขนส่งผ่านแดนไปจีนตอนใต้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้เจรจากับกระทรวงศุลกากรจีน (GACC) โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามเข้าสู่สาธารณประชาชนจีนแล้ว อยู่ระหว่างรอการลงนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2563 ได้อนุญาตให้มีการนำเข้า-ส่งออกผลไม้สดในด่านฝั่งไทย เพิ่มจาก 2 ด่าน เป็น 5 ด่าน คือ ด่านเชียงของ ด่านมุกดาหาร ด่านนครพนม (เส้นทาง R12) ด่านบึงกาฬ (เส้นทาง R8) และด่านบ้านผักกาด (จันทบุรี เส้นทาง R1) ส่วนด่านฝั่งจีนเพิ่มจาก 2 ด่าน เป็น 4 ด่าน คือ ด่านโม่หาน ด่านโหย่วอี้กวน ด่านตงซิง และด่านรถไฟผิงเสียง ซึ่งคาดว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้สดของไทยไปจีนตอนใต้น่าจะมีความสะดวกมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad