เร่งขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย ตั้งเป้าลงนามอาร์เซ็ปปลายปี พร้อมดึงอินเดียกลับร่วมวงเจรจา - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เร่งขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย ตั้งเป้าลงนามอาร์เซ็ปปลายปี พร้อมดึงอินเดียกลับร่วมวงเจรจา

img

สมาชิกอาร์เซ็ป 15 ประเทศ ประชุมทางไกลขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลง ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จทั้ง 20 บทภายในเดือนก.ค.นี้ ก่อนลงนามภายในสิ้นปีตามเป้า เผยยังได้เดินหน้าทำข้อเสนอดึงอินเดียกลับเข้าสู่โต๊ะการเจรจา ยืนยันพร้อมที่จะร่วมกันทางหาออกในประเด็นอ่อนไหวที่อินเดียยังมีความกังวล
        
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ระหว่างอาเซียน และ 6 ประเทศคู่เจรจา คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ผู้แทนจากประเทศสมาชิก 15 ประเทศ ยกเว้นอินเดีย ได้ประชุมระดับคณะกรรมการ ครั้งที่ 29 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 20-29 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา โดยได้หารือถึงการขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลงอาร์เซ็ป และจากนี้ สมาชิกจะประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายให้เสร็จทั้ง 20 บท ภายในเดือนก.ค.2563 เพื่อให้สมาชิกมีเวลาเตรียมการภายในประเทศให้เสร็จสิ้นทันต่อการลงนามความตกลงในสิ้นปีนี้

ส่วนการหาแนวทางให้อินเดียกลับมาเจรจาต่อ หลังจากไม่เข้าร่วมการประกาศความสำเร็จของการเจรจาเมื่อเดือนพ.ย.2562 ที่กรุงเทพฯ สมาชิก 15 ประเทศได้หารือประเด็นคงค้างของอินเดีย และจะร่วมกันจัดทำเอกสารข้อเสนอที่จะยื่นให้อินเดียพิจารณากลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เซ็ป ตามที่ผู้นำและรัฐมนตรีอาร์เซ็ปได้ตกลงกันในการประชุมสุดยอดผู้นำอาร์เซ็ป ที่กรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว ที่จะร่วมกันหาทางออกต่อข้อเสนอของอินเดีย และสมาชิกทั้ง 15 ประเทศยังคงยืนยันที่จะให้อินเดียกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เซ็ป โดยมุ่งหวังให้อาร์เซ็ปเป็นเวทีแห่งการสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่มั่นคงในภูมิภาค ที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับเอกสารข้อเสนอที่สมาชิก 15 ประเทศจะยื่นให้อินเดีย จะระบุถึงการหาทางออกในประเด็นอ่อนไหวของอินเดียในเรื่องการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสมาชิก ซึ่งอินเดียมีความกังวลในปัญหาการขาดดุลการค้ากับสมาชิกหลายประเทศ และข้อเสนอกระบวนการหารือตามกรอบเวลา เพื่อให้ทันต่อการลงนามความตกลงในปลายปีนี้ โดยจะต้องหารือร่วมกับอินเดียในรายละเอียดต่อไป
        
นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ ยังประสบความสำเร็จในอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการปรับตารางข้อผูกพันเปิดตลาดของสมาชิกให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน และการจัดตั้งกลไกการทำงานของอาร์เซ็ป ภายหลังรัฐมนตรีอาร์เซ็ปได้ลงนาม และความตกลงมีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกทั้ง 16 ประเทศลงนามความตกลงอาร์เซ็ป และมีผลบังคับใช้ จะกลายเป็นความตกลงการค้าเสรีขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกรวม 16 ประเทศ และมีประชากรรวมกันเกือบ 3,600 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) คิดเป็น 1 ใน 3 ของจีดีพีโลก และจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะสร้างกิจกรรมการค้าเพิ่มขึ้น

สำหรับสินค้าไทยที่จะได้ประโยชน์จากอาร์เซ็ป เช่น น้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง ข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ และจะช่วยส่งเสริมธุรกิจบริการไทย เช่น ก่อสร้าง ค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจสุขภาพ ท่องเที่ยว ธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์และบันเทิง เป็นต้น รวมทั้งยังดึงดูดการลงทุนคุณภาพให้กลับเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย เช่น นวัตกรรมและดิจิทัล เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad