ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ บ.อิออน ธนสินทรัพย์ “เป็นลบ” และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A-(tha)’ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ บ.อิออน ธนสินทรัพย์ “เป็นลบ” และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A-(tha)’

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) เป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” จาก “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” และคงอันดับเครดิตที่ 'A-(tha)’    

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

“แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่เชื่อว่าสถาบันการเงินในประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจที่รุนแรงซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส
ในขณะที่การคงอันดับเครดิตแม้ว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานจะมีความท้าทายเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงการที่ฟิทช์เชื่อว่าสถานะทางเครดิตของ AEONTS น่าจะสามารถทรงตัวอยู่ในระดับอันดับเครดิตปัจจุบันได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเครือข่ายธุรกิจและยังมีฐานะเงินกองทุนและสภาพคล่องที่สามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับที่เพียงพอเทียบกับอันดับเครดิตปัจจุบัน
AEONTS เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภค (consumer finance) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีความชำนาญในธุรกิจสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน (unsecured lending) บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลค่อนข้างสม่ำเสมอที่ประมาณ 9%-10% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ของ AEONTS ยังได้รับการสนับสนุนจากการที่บริษัทมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศและมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น
ฟิทช์เชื่อว่าการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสจะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในการดำเนินงานปรับตัวอ่อนแอ่ลงอย่างมาก โดยเศรษฐกิจไทย (GDP) จะหดตัวลงในอัตรา 5.1% ในปี 2563 ซึ่งจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจในเอเชียปี 2540-2541 อีกทั้งประเทศไทยยังคงมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนในระดับค่อนข้างสูง (ที่ประมาณ 80 % ของ GDP ณ สิ้นปี 2562)  ซึ่งจะส่งผลให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในภาวะที่อัตราการจ้างงานหรืออัตราค่าจ้าง (employment and wages) มีการปรับตัวแย่ลงอย่างมากเป็นเวลาต่อเนื่อง
แม้ว่าระยะเวลาของการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มของระดับการฟื้นตัวยังคงมีความไม่แน่นอนในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าสภาพแวดล้อมในอนาคตและแนวโน้มผลประกอบการของสถาบันการเงินไทยได้ปรับตัวอ่อนแอลงไปอย่างมากแล้ว  โดยเฉพาะในภาคธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งรวมถึง AEONTS น่าจะต้องเผชิญกับแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์และรายได้ที่ปรับตัวแย่ลง แม้ว่าทางการจะมีมาตรการผ่อนปรนในด้านการจัดชั้นสินเชื่อและการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งอาจช่วยชะลอผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ได้บ้าง แต่มาตรการเหล่านี้ไม่น่าจะป้องกันการปรับตัวด้อยลงของคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมที่ได้ และฟิทช์เชื่อว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพจะเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีข้างหน้า
อัตราส่วนทางการเงินในด้านอัตรากำไรของ AEONTS (ซึ่งคำนวนจากกำไรก่อนภาษี/สินทรัพย์รวมเฉลี่ย) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐาน (benchmark) ของบริษัทอื่นในกลุ่มเดียวกัน   ซึ่งน่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากการปรับตัวลดลงของรายได้ได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ฟิทช์ยังเชื่อว่าบริษัทจะสามารถรักษาฐานะเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เพียงพอได้ต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบเชิงลบจากรายการพิเศษหลังการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 AEONTS มีแหล่งเงินทุนที่ค่อนข้างหลากหลายเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารรายอื่น เนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร (เนื่องจากกลุ่มบริษัทแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร) และมีประวัติการระดมทุนในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของมุมมองของฟิทช์ต่อสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานสามารถดูได้จากประกาศเรื่อง “สถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารของไทยเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นจากโคโรน่าไวรัส” หรือ “Thai NBFIs Face Greater Pressure from Coronavirus Shock” ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 www.fitchratins.com/site/pr/10120970
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับกลับมาเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” หากความท้าทายจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ตัวอย่างเช่น การที่บริษัทสามารถมีความแข็งแกร่งทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น โดย AEONTS สามารถรักษาอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญด้านคุณภาพสินทรัพย์ (เช่น สินเชื่อด้อยคุณภาพ) ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเหตุการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส และการที่บริษัทสามารถเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นให้ปรับตัวกลับมาสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังจากผลกระทบเชิงลบจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

“แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” สะท้อนถึงความเสี่ยงในการปรับลดอันดับเครดิตหากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานปรับตัวแย่ลงกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ รายได้ และฐานะเงินกองทุนของ AEONTS ได้รับผลกระทบในเชิงลบในระดับที่มากกว่าคาดการณ์ โดยตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จากการที่บริษัทมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงกว่า 5% อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการมีอัตราส่วนรายได้ที่ด้อยลงซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถที่จะสะสมเงินกองทุนลดลง (internal capital generation)

รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-(tha)’; ปรับเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” จาก “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ”
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'A-(tha)’
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม National Scale Ratings Criteria ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 และ Non-Bank Financial Institutions Rating Criteria ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 (pub. 29 Feb 2020) (including rating assumption sensitivity) หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่ www.fitchratings.com
การจัดอันดับเครดิตในรายงานนี้เกิดจากความต้องการของบริษัทที่ถูกจัดอันดับ ดังนั้น ฟิทช์ จึงได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว
การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS  นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน 'หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องกรรมการและผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องสามารถดูได้จาก HTTPS://WWW.FITCHRATINGS.COM/SITE/REGULATORY ฟิทช์อาจจะมีการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้แก่บริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่  ซึ่งรายละเอียดสำหรับการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ดังกล่าวโดยนักวิเคราะห์หลัก (Lead Analyst) ที่อยู่ในหน่วยงานของฟิทช์ที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป ได้แสดงไว้ที่หน้าแรกของบริษัทนั้น ๆ ในเว็ปไซต์ของฟิทช์ เรทติ้งส์ www.fitchratings.com
Copyright (C) 2020 by Fitch Ratings, Inc., Fitch Ratings Ltd. and its subsidiaries. 33 Whitehall Street, NY, NY 10004. Tel: 1-800-753-4824, (212) 908-0500. Fax: (212) 480-4435. ห้ามมิให้นำรายงานข้างต้นไปจัดทำใหม่ หรือเผยแพร่ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากทางฟิทช์ ฟิทช์ขอสงวนสิทธิทั้งหมดในรายงานนี้   ในการจัดทำและติดตามอันดับเครดิตโดยฟิทช์ และการจัดทำรายงานอื่นๆ รวมถึงการทำประมาณการต่างๆ ฟิทช์อาศัยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับจากบริษัทผู้ออกตราสารและบริษัทผู้จัดจำหน่าย และจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่ฟิทช์เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ  ฟิทช์ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่ใช้ตามสมควรตามหลักเกณฑ์ที่ฟิทช์ใช้ในการจัดอันดับเครดิต และได้รับการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลเหล่านั้นตามสมควรจากแหล่งข้อมูลที่เป็นอิสระ ทั้งนี้ เท่าที่มีแหล่งข้อมูลดังกล่าวสำหรับตราสารนั้น ๆ หรือมีแหล่งข้อมูลดังกล่าวอยู่ภายในประเทศที่มีการออกตราสารนั้น  วิธีการที่ฟิทช์ใช้ในการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและขอบเขตในการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่ฟิทช์ได้รับจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของตราสารและบริษัทผู้ออกตราสาร, ข้อกำหนดและหลักปฏิบัติในประเทศที่มีการเสนอขายตราสารที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต และ/หรือ ที่บริษัทผู้ออกตราสารตั้งอยู่, ลักษณะของข้อมูลที่เปิดเผยที่เกี่ยวข้องที่สามารถหาได้, การเข้าถึงผู้บริหารและที่ปรึกษาของบริษัทผู้ออกตราสาร, การยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีอยู่ที่สามารถหาได้ (อาทิ รายงานการตรวจสอบบัญชี จดหมายกำหนดกระบวนการตรวจสอบ (agreed-upon procedures letters) รายงานการประเมินราคา รายงานการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของธุรกิจประกันวินาศภัย (actuarial reports) รายงานทางวิศวกรรม ความเห็นทางกฎหมาย และรายงานอื่นๆ ที่จัดทำโดยบุคคลที่สาม), ความมีอยู่ของแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบจากบุคคลที่สามซึ่งเป็นอิสระและมีความสามารถ ที่เกี่ยวข้องกับตราสารนั้นหรือที่มีอยู่ในประเทศของบริษัทผู้ออกตราสารนั้น, และปัจจัยอื่นๆ   ผู้ใช้อันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ ควรเข้าใจว่าการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่ฟิทช์ได้รับไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นที่ฟิทช์ใช้ในการจัดอันดับเครดิตและจัดทำรายงานการจัดอันดับเครดิตจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและสมบูรณ์  ท้ายที่สุดแล้วบริษัทผู้ออกตราสารและที่ปรึกษาของบริษัทจะต้องรับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารแสดงรายการข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ (Offering documents) และในรายงานอื่นๆ   ที่ให้แก่ฟิทช์และตลาด ในการจัดทำอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์  ฟิทช์จะต้องอาศัยรายงานของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งรวมถึง ผู้สอบบัญชีอิสระในการพิจารณางบการเงินของบริษัท และนักกฎหมายในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายและภาษี   นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตและการประมาณการทางการเงินรวมถึงข้อมูลอื่นๆ  มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสมมติฐานต่างๆ ที่ตั้งขึ้น และการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งโดยลักษณะแล้วไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง  ดังนั้น แม้ว่าจะมีการยืนยันความถูกต้องของข้อเท็จจริงปัจจุบัน อันดับเครดิตและการประมาณการอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์หรือเงื่อนไขในอนาคตที่ไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้า ณ เวลาที่จัดทำหรือยืนยันอันดับเครดิตและประมาณการ
ข้อมูลในรายงานนี้ได้ถูกนำเสนอ “ตามที่เป็น” โดยไม่ได้เป็นการรับรองหรือการรับประกันใดๆ และฟิทช์ไม่รับรองหรือรับประกันว่ารายงานหรือเนื้อหาใดๆ ในรายงาน จะตรงตามข้อกำหนดใดๆ ของผู้รับรายงานนี้  การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์เป็นความคิดเห็นในเรื่องความน่าเชื่อถือของตราสาร  ความคิดเห็นและรายงานการจัดอันดับเครดิตนี้ถูกจัดทำโดยฟิทช์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิตที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งฟิทช์จะคอยติดตามประเมินและปรับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิตให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ   ดังนั้น การจัดอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตเป็นผลงานของฟิทช์โดยรวม  และไม่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการจัดอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตนั้นๆ  การจัดอันดับเครดิตไม่ได้พิจารณาความเสี่ยงในการขาดทุนอันเนื่องมาจากความเสี่ยงอื่นใด นอกเหนือจากความเสี่ยงทางด้านเครดิต เว้นแต่ว่าความเสี่ยงนั้นจะมีการระบุเอาไว้เป็นการเฉพาะ   ฟิทช์ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเสนอขายหลักทรัพย์ใดๆ   รายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ทั้งหมดเป็นการจัดทำขึ้นร่วมกัน  รายชื่อบุคคลที่ระบุไว้ในรายงานเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำรายงานแต่ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อความคิดเห็นที่เสนอในรายงานนั้น   รายชื่อที่ระบุไว้ในรายงานมีเพื่อใช้สำหรับการติดต่อเท่านั้น   รายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ไม่ได้เป็นหนังสือชี้ชวนในการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือสิ่งที่ใช้แทนข้อมูลที่รวบรวม ยืนยันความถูกต้อง และนำเสนอต่อนักลงทุนโดยบริษัทผู้ออกตราสารและตัวแทนในการเสนอขายหลักทรัพย์   อันดับเครดิตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก ณ เวลาใดๆ และด้วยเหตุผลใดๆ ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฟิทช์แต่เพียงผู้เดียว   ฟิทช์มิได้ให้คำปรึกษาในการลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น การจัดอันดับเครดิตไม่ได้เป็นการแนะนำให้นักลงทุน ซื้อ ขาย หรือถือตราสารใดๆ  การจัดอันดับเครดิตไม่ได้เป็นการชี้ถึงความพอเหมาะของราคาตลาดและความเหมาะสมของตราสารใดๆ ต่อนักลงทุนรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ หรือลักษณะการยกเว้นภาษีหรือการเสียภาษีจากการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับตราสารใดๆ   ฟิทช์ได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตจากบริษัทผู้ออกตราสาร ผู้รับประกัน ผู้ค้ำประกัน ผู้มีภาระผูกพันอื่นๆ และผู้จัดจำหน่าย  โดยปกติค่าจ้างดังกล่าวจะแตกต่างกันไปโดยเริ่มจากหนึ่งพันเหรียญสหรัฐฯ ถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นเหรียญสหรัฐฯ (หรือเทียบเท่าสำหรับสกุลเงินอื่น) ต่อครั้งของการออกตราสาร  ในบางกรณีฟิทช์จะได้รับค่าจ้างครั้งเดียวต่อปีจากการจัดอันดับเครดิตตราสารทั้งหมดหรือบางส่วนที่ออกโดยผู้ออกตราสารนั้นๆ หรือตราสารที่รับประกันหรือค้ำประกันโดยผู้รับประกันนั้นๆ หรือผู้ค้ำประกันนั้นๆ โดยค่าจ้างดังกล่าวคาดว่าจะแตกต่างกันไปโดยเริ่มจากหนึ่งหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ถึงหนึ่งล้านห้าแสนเหรียญสหรัฐฯ (หรือเทียบเท่าสำหรับสกุลเงินอื่น)   การจัดทำ การประกาศสู่สาธารณะ หรือการเผยแพร่การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ไม่ได้เป็นการแสดงว่าฟิทช์ยินยอมให้ใช้ชื่อฟิทช์ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ซึ่งได้ยื่นส่งภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา (the United States securities laws), the Financial Services and Markets Act of 2000 ของสหราชอาณาจักร หรือภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ในประเทศใดๆ   เนื่องจากประสิทธิภาพในการประกาศสู่สาธารณะและการเผยแพร่ที่รวดเร็วกว่าในระบบอิเล็กทรอนิกส์ รายงานของฟิทช์อาจจะปรากฏแก่สมาชิกในระบบอิเล็กทรอนิกส์เร็วกว่าสมาชิกในระบบสิ่งพิมพ์ถึงสามวัน
สำหรับออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไต้หวัน และเกาหลีใต้เท่านั้น: Fitch Australia Pty Ltd ได้รับใบอนุญาตให้บริการทางการเงิน (Australian Financial Services license no. 337123) ซึ่งอนุญาตให้บริษัทเสนอการจัดอันดับเครดิตให้แก่นักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น  อันดับเครดิตที่ประกาศโดยฟิทช์มิได้มุ่งหมายให้นำไปใช้โดยบุคคลซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยภายใต้คำจำกัดความตาม the Corporations Act 2001
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ (Fitch Ratings, Inc.) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะองค์กรที่เป็น Nationally Recognized Statistical Rating Organization (NRSRO)  โดยที่บริษัทในเครือของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ จำนวนหนึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับเครดิตที่อยู่ในรายชื่อในหัวข้อที่ 3 ในแบบฟอร์มของ NRSRO ซึ่งได้รับอนุญาตให้ออกอันดับเครดิตในฐานะที่เป็น NRSRO (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fitchratings.com/site/regulatory) ในขณะที่บริษัทในเครือของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ อีกจำนวนหนึ่งที่เหลือ ไม่อยู่ในรายชื่อในหัวข้อที่ 3 ในแบบฟอร์มของ NRSRO (ซึ่งรวมเรียกว่า non-NRSRO) ดังนั้นอันดับเครดิตที่ออกโดยบริษัทจัดอันดับเครดิตเหล่านี้ไม่ได้ออกในฐานะบริษัทที่เป็น NRSRO  อย่างไรก็ตาม บุคลากรของบริษัทที่เป็น non-NRSRO อาจจะมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำอันดับเครดิตของบริษัทที่มีฐานะเป็น NRSRO

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad