บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) บริษัทย่อยของซีพีเอฟ พร้อมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) บริษัทย่อยของซีพีเอฟ พร้อมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CPFTH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” ถือหุ้น 99.99% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ อายุ 4 ปี 6 เดือน อายุ 7 ปี อายุ 10 ปี อายุ 12 ปี และอายุ 15 ปี ซึ่งหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่ระดับ A+ โดยมีธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารซีไอเอ็มบี (ไทย) ธนาคารทหารไทย และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายคาดว่าจะเสนอขายภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงินของซีพีเอฟ เปิดเผยว่า CPFTH เป็นบริษัทย่อยของซีพีเอฟ ที่ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจสัตว์บกครบวงจรในประเทศไทยประกอบด้วยประเภทสัตว์หลัก ได้แก่ สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และเป็ด จำแนกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) ได้แก่ การผลิตและการจำหน่ายอาหารสัตว์ 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์ (Farm) ได้แก่ การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า และการแปรรูปเนื้อสัตว์ขั้นพื้นฐาน และ 3.ธุรกิจอาหาร (Food) ได้แก่ การผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปกึ่งปรุงสุกและปรุงสุก ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานรวมถึงมีกิจการค้าปลีกอาหารและร้านอาหาร ภายใต้ แบรนด์ต่างๆ  อาทิเช่น ซีพีเฟรชมาร์ท, ธุรกิจห้าดาว, สตาร์คอฟฟี่, ซีพี คิทเช่น, ร้านอาหารสไตล์เกาหลีภายใต้ชื่อร้าน  “ดัคกาลบี้”,  ร้านอาหารบุฟเฟต์ อาหารทะเล นานาชาติ ภายใต้ชื่อ “ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์” เป็นต้น
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) บริษัทย่อยของซีพีเอฟ พร้อมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้
โดยในปี 2562 CPFTH มีรายได้จากการดำเนินงานรวมกว่า 1.44 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 27% ของซีพีเอฟ และEBITDA จำนวน 7.2 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15% ของซีพีเอฟ และจากการที่ราคาของผลิตภัณฑ์สัตว์บกปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับของระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนและราคาเฉลี่ยของวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีในไตรมาสแรกของปี 2563 โดยมีรายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 13% ในไตรมาสแรกของปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 9% ในช่วงเดียวกันของปี 2562
ทั้งนี้ ธนาคารผู้จัดจำหน่ายคาดว่าหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นที่จะออกและเสนอขายน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยกิจการที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ มีโอกาสและมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในนั้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากผลกระทบของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ เป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ขณะที่ความแข็งแกร่งของ CPFTH ยังสะท้อนได้จากอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ A+ ซึ่งตอกย้ำ สถานะของบริษัทฯ ในการเป็นบริษัทย่อยที่สำคัญของซีพีเอฟในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad