PPS เผยทิศทางธุรกิจครึ่งหลังปี 63 ปรับกลยุทธ์พัฒนาทักษะบุคลากร เพิ่มโอกาสรับงานภาครัฐ เตรียมดำเนินงานโครงการใหญ่ตามแผน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

PPS เผยทิศทางธุรกิจครึ่งหลังปี 63 ปรับกลยุทธ์พัฒนาทักษะบุคลากร เพิ่มโอกาสรับงานภาครัฐ เตรียมดำเนินงานโครงการใหญ่ตามแผน


ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าโครงการก่อสร้างยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่บริษัทได้รับผลกระทบในเรื่องข้อจำกัดเวลาการทำงาน มาตรการฉุกเฉินของภาครัฐ รวมถึงนโยบายควบคุมการเข้าออกพื้นที่ในบางจังหวัด ซึ่งบริษัทได้ปรับแผนการก่อสร้างร่วมกับเจ้าของงาน ผู้รับเหมา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้การก่อสร้างดำเนินงานต่อไปได้ตามแผน

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จากสถานการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องกับลูกค้าโครงการภาคเอกชนที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัท โดยโครงการที่จะออกมาในระยะนี้คาดว่าเป็นงานของภาครัฐบาลที่เริ่มทยอยลงทุนโครงการตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและคุณสมบัติของบุคลากรที่ไม่เหมือนกับลูกค้าภาคเอกชน บริษัทจึงเตรียมความพร้อมจัดหาบุคลากรใหม่และพัฒนาศักยภาพของพนักงานเดิม เพื่อสร้างโอกาสเพิ่มเติมในการรับงานทั้งในโครงการเมกะโปรเจกต์และงานกลุ่ม EEC
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับงานโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐและเอกชนเมื่อปลายปี 2562 ซึ่งเริ่มดำเนินการตามแผนงานก่อสร้างในไตรมาส 2 นี้ อีกทั้งได้รับงานโครงการใหม่จากการขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 530 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 (บริษัทแจ้งขอผ่อนผันในช่วงประกาศงบไตรมาส 1/63) มีรายได้รวม 107.72 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 130.41 ล้านบาท จำนวน 22.69 ล้านบาท หรือลดลง 17.40 % และมีขาดทุนสุทธิ 8.18 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.89 ล้านบาท จำนวน 20.07 ล้านบาท หรือลดลง 168.80 %
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ที่มีอยู่เดิมของบริษัทเริ่มเข้าสู่ช่วงการส่งมอบงาน โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการขยายพื้นที่สำนักงาน ค่าใช้จ่ายในการศึกษาโครงการอสังหาริมทรัพย์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการเพิ่มพนักงาน นอกจากนี้บริษัทได้บันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจำนวน 4.92 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad