วัคซีนโควิด-19 ทำความต้องการ “เข็ม-หลอดฉีดยา”พุ่ง แนะใช้เอฟทีเอช่วยขยายตลาด - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

วัคซีนโควิด-19 ทำความต้องการ “เข็ม-หลอดฉีดยา”พุ่ง แนะใช้เอฟทีเอช่วยขยายตลาด

img

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศติดตามตลาด “เข็มและหลอดฉีดยา” พบแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้น หลังการคิดค้นวัคซีนโควิด-19 เห็นแววสำเร็จ แนะผู้ประกอบการไทยเตรียมพร้อมปรับแผนการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการทั้งในและต่างประเทศ และใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเป็นใบเบิกทางขยายตลาดต่างประเทศ
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามตลาดสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มที่ใช้ในการฉีดวัคซีน เช่น เข็มฉีดยา และหลอดฉีดยา พบว่ามีแนวโน้มการขยายตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้ที่จะเพิ่มสูงขึ้น ตามการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใกล้จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเห็นได้จากสถิติการนำเข้าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวของทั่วโลกในช่วง 6 เดือนปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ที่หลายประเทศเริ่มสำรองและเพิ่มการนำเข้า

โดยเข้มฉีดยา สหรัฐฯ นำเข้า 403 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 4% ญี่ปุ่น นำเข้า 97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6% ฝรั่งเศส นำเข้า 67 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 0.4% รัสเซีย นำเข้า 28 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11% เกาหลีใต้ นำเข้า 24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 4% ชิลี นำเข้า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 31% และหลอดฉีดยา สหรัฐฯ นำเข้า 382 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 4% ฝรั่งเศส นำเข้า 377 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6% ญี่ปุ่น นำเข้า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 23% ฮ่องกง นำเข้า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 0.4% ชิลี นำเข้า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 44% เปรู นำเข้า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 30% เป็นต้น  

นางอรมนกล่าวว่า ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกเข็มฉีดยาทำด้วยโลหะเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 6 ของโลก และในภาพรวมของการส่งออกเข็มและหลอดฉีดยา ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 11 ของโลก ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสนี้ในการเตรียมความพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมขยายการส่งออกไปประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย ซึ่งประเทศคู่เอฟทีเอของไทยทั้ง 18 ประเทศ ไม่เก็บภาษีศุลกากรจากไทยในสินค้าเข็มและหลอดฉีดยา รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกรายการ ส่งผลให้สินค้าของไทยได้เปรียบด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง และยังมีแนวโน้มที่ประเทศต่างๆ จะทยอยลดเลิกอุปสรรคด้านภาษีในสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ในระยะยาวอีกด้วย
         
ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยส่งออกสินค้าเข็มฉีดยาและหลอดฉีดยาสู่ตลาดโลก รวม 199.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.6% แบ่งเป็นการส่งออกเข็มฉีดยาทำด้วยโลหะ 62.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% คิดเป็นสัดส่วน 31.5% ของการส่งออกทั้งหมด เข็มฉีดยาอื่นๆ 134.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 14% สัดส่วน 67.1% และหลอดฉีดยาแบบมีหรือไม่มีเข็ม 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6% สัดส่วน 1.4% โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี และจีน

ส่วนการการส่งออกไปยังประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วยมีมูลค่ารวม 86.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8% คิดเป็นสัดส่วน 43% ของการส่งออกเข็มและหลอดฉีดยาทั้งหมดของไทย โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น มูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9.48% จีน มูลค่า 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 8.72% เกาหลีใต้ มูลค่า 4.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 2.03% อาเซียน มูลค่า 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 77.07% และออสเตรเลีย มูลค่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 41.70%

ดูสถิติการส่งออก นำเข้า 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad