“เรียน เล่น รู้ ตามรอยพ่อ” นำทางนักเรียนตาบอดสู่การพึ่ งพาตนเองอย่างยั่งยืน
พัฒนาทักษะการดำเนินชีวิตพร้ อมรับมือทุกสถานการณ์ด้วย“โคก หนอง นา โมเดล”
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสั งคมในวงกว้าง รวมถึง โรงเรียนการศึ กษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้ อน ลพบุรี แต่ด้วยการลงมือปฏิบัติ ตามศาสตร์พระราชา สร้าง “โคก หนอง นา โมเดล” บนพื้นที่ของโรงเรียน จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการให้พื้ นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรั บการ “เรียน เล่น รู้” เพื่อพัฒนาความรู้และเสริมสร้ างทักษะชีวิตของนักเรี ยนตาบอดกว่า 100 ชีวิต แต่พื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นยั งเป็นแหล่งวัตถุดิ บในการประกอบอาหาร และบางส่วนยังได้รับการแปรรู ปเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้กับโรงเรียน ทำให้ทุกคนสามารถสามารถพึ่ งพาตนเองและฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ ไปได้
เปลี่ยน “พื้นที่รกร้าง” เป็น “พื้นที่เรียน เล่น รู้”
จากการร่วมแรงร่วมใจของ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ สถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ที่ได้เข้ามาปรับพื้นที่รกร้ างในบริเวณโรงเรียนขนาด 2 ไร่ให้กลายเป็น “พื้นที่เรียน เล่น รู้ ตามรอยพ่อ” ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 สำหรับจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นอกห้องเรียน ให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการใช้ ประสาทสัมผัส และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ สำหรับปลูกพืชผักสวนครัวที่ หลากหลายกว่า 30 ชนิด เช่น ผักกาด คะน้า กะเพรา พริก มะเขือ ถั่วฝักยาว และอื่นๆ ที่ไม่เพียงสามารถนำมาใช้สำหรั บการปรุงอาหารเพื่อเลี้ยงปากท้ องนักเรียนทุกคนและช่วยลดรายจ่ ายในการจัดซื้อวัตถุดิบได้แล้ว ยังสามารถนำไปขายเพื่อสร้ างรายได้เสริมสำหรับการดูแลนั กเรียนทั้งโรงเรียนได้อีกด้วย
วิชัย สานคล่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนการศึ
เพาะปลูกเมล็ดพันธุ์สู่การยื นหยัดด้วยตนเองอย่างยั่งยืน
แม้ว่าโรงเรียนการศึ กษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้ อน ลพบุรี จะสามารถพึ่งพาตนเองได้ จากการใช้พืชผักสวนครัวที่นั กเรียนและครูช่วยกันดูแล สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติได้อย่ างราบรื่นมาโดยตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นถือเป็นความท้ าทายและบททดสอบครั้งใหญ่สำหรั บทุกคนในโรงเรียนแห่งนี้อย่ างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยการศึกษา “ศาสตร์พระราชา”และการร่วมกิจกรรมของมูลนิธิกสิ กรรมธรรมชาติมาหลายครั้งของ ครูสมาร์ท-สุภัสชญา จังโกฎิ จึงทำให้เขานำเอาองค์ความรู้ที่ ได้รับมาจากการอบรมและลงมือปฏิ บัติจริงมาร่วมระดมความคิดกั บบรรดาครูในโรงเรียนเพื่ อหารายได้เสริมนอกเหนื อจากการขายพืชผัก ด้วยการแปรรูปพืชผักในสวนเป็นวั ตถุดิบในการทำน้ำพริ กหลากหลายชนิด เช่น น้ำพริกปลาร้าสับ น้ำพริกนรก น้ำพริกปลาย่าง และน้ำพริกกากหมู รวมถึงนำเงินที่ได้ จากการขายบางส่วนไปซื้อไข่เป็ ดมาทำ ไข่เค็มดินสอพอง ของขึ้นชื่อประจำจังหวัดลพบุรี ได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ ภายในสวนดังกล่าวยังมีการแบ่งพื้ นที่สำหรับทำโรงเลี้ยงไส้เดื อนเอาไว้สำหรับผลิตปุ๋ยมูลไส้ เดือนเพื่อจำหน่ายให้กั บเกษตรกรในพื้นที่ ก่อให้เกิดรายได้ช่วยหล่อเลี้ ยงโรงเรียนในวิกฤตครั้งนี้
“จากที่ผมได้เข้าไปรั
ด้านน้องปิ๊น-มัลลิกา จันทร์งาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนการศึ กษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้ อน ลพบุรี กล่าวถึงการทำกิจกรรมในพื้นที่ ‘เรียน เล่น รู้ ตามรอยพ่อ’ ว่า“การปลูกผักและดูแลสวนแห่งนี้ เป็นกิจกรรมที่ตัวหนูและเพื่อนๆ ในห้องเรียนชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะพวกหนูได้เรียนรู้และลงมื อทำด้วยตัวเองโดยมีคุณครูเป็นผู้ แบ่งหน้าที่ในการดูแลสวนแห่งนี้ พร้อมทั้งแนะนำและให้ความช่ วยเหลืออย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่ผักที่พวกเราแต่ละคนช่วยกั นปลูกนั้นสามารถนำไปทำอาหารให้ กับทุกคนในโรงเรียนของเรา ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีอี กด้วยค่ะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น