อีกทางรอดของยุคเชื้อโรคกลายพันธุ์ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองกับสารพฤกษเคมี
เชื่อว่าตั้งแต่มนุษยชาติต้องผ่านช่วงที่เกิดโรคระบาดร้ายแรงมา ทำให้ใครหลายๆ คน คงรู้สึกหวาดกลัวกันไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ เพราะจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งนับวันยิ่งกลายพันธุ์ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีเชื้อไวรัสโควิด ก็ยังมีโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่น่ากลัวไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือแม้กระทั่งไข้หวัดธรรมดา (common cold) ที่เมื่อเป็นแล้วบางคนถึงขนาดต้องหามเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเลย เพราะเมื่อเป็นในแต่ละครั้งอาการจะค่อนข้างหนัก ยิ่งสมัยนี้มักมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้อากาศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอติดเชื้ออะไรหน่อยก็ลามไปเป็นโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง ปอดติดเชื้อ ปอดอักเสบกันเลยค่ะ แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี
เพื่อให้เรากลับมาเข้าใจเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อจะได้ลดความตื่นตระหนกลงไป
ด้วย เราลองมาตั้งใจเรียนรู้เรื่องระบบภูมิคุ้มกันในตัวของพวกเราเองแบบง่ายๆ กันดีกว่ามั้ยคะ เพราะถ้าเราเข้าใจเรื่องระบบภูมิคุ้มกันเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากเราจะสบายใจขึ้น เราจะได้มาเรียนรู้วิธีในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วยวิธีที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อห่างไกลจากการติดเชื้อต่างๆ ไม่เพียงแต่โคโรนาไวรัสนั่นเอง
ว่าแล้วมาเริ่มกันเลยนะคะ
ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายนั้น เริ่มตั้งแต่สิ่งที่เป็นเกราะป้องกันห่อหุ้มร่างกายของเรา อันได้แก่ ผิวหนัง เยื่อบุอวัยวะต่างๆ ในระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ก็คือ เป็นส่วนของอวัยวะที่สัมผัสกับอะไรก็ตามที่มาจากภายนอกนั่นเอง เช่น ฝุ่นผง เชื้อโรคที่อยู่ตามพื้นผิวสัมผัส อากาศ อาหาร รวมไปถึงสิ่งต่างๆที่ปนเปื้อนอากาศและอาหาร เป็นต้น ดังนั้น ปราการด่านแรกนี้ ถ้ามีความแข็งแรงพอควร มีความชุ่มชื้นสร้างสารคัดหลั่งเยื่อเมือกที่เหมาะสม ก็จะช่วยดักจับเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเราได้
แต่ถ้ายังมีหลุดเข้ามาล่ะ ทำอย่างไรกันดี
อย่าเพิ่งตระหนกไปค่ะ เรายังมีปราการต่อมา ก็คือ เม็ดเลือดขาวที่ลอยละล่องไปตามกระแสเลือด เหมือนทหารเรือที่คอยลาดตระเวนไปตามลำน้ำให้เรานั่นเองค่ะ แต่เม็ดเลือดขาวของเรานั้น เก๋ไก๋มากค่ะ มีหลายแบบเลย ก็เหมือนทหารที่มีหลายกองพันน่ะค่ะ เม็ดเลือดขาวชนิดฟาโกไซต์ เป็นนักเขมือบเจออะไรประหลาดๆจับกินทำลายหมด เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ ซึ่งแบ่งย่อยเป็นชนิดบีกับทีนั้น ไม่ได้เขมือบแบบชนิดแรกค่ะ แต่เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ทีจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลสิ่งแปลกปลอม ประเมินสิ่งแปลกปลอมก่อน ถ้าทำลายได้เลยก็ใช้เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ทีชนิด cytotoxic ทำลาย หรือไม่ก็ใช้เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ทีชนิด helper กระตุ้นเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์บีสร้างสารที่เรียกว่าแอนติบอดี โดยสารนี้จะมาทำลายสิ่งแปลกปลอมอีกทีค่ะ
คราวนี้เราจะทำอย่างไรที่จะให้บรรดาเหล่าทหารหาญเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงกันดี วิธีง่ายๆก็คือ การดูแลใส่ใจร่างกายให้ดีที่สุดนั่นเองค่ะ เริ่มจาก พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้สนิท ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่สำคัญเลย ก็คือ การเลือกรับประทานอาหารค่ะ โดยอาหารที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่
· เบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นสารประกอบประเภทคาร์โบไฮเดรต จากการศึกษาพบว่าการกินเบต้ากลูแคนจะช่วยให้เนื้อเยื่อบุลำไส้มีความสามารถในการสื่อสารกับระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น จึงช่วยลดอุบัติการณ์ติดเชื้อจากระบบทางเดินอาหารค่ะ
· โปรตีน เป็นส่วนประกอบหลักของแอนติบอดี ซึ่งใช้ในการทำลายสิ่งแปลกปลอม ยังไม่รวมถึงเป็นองค์ประกอบของเซลล์ต่างๆที่เกี่ยวข้องในระบบภูมิคุ้มกันอีกค่ะ ดังนั้น การขาดโปรตีนจึงเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันค่ะ
· ไขมัน ย้ำว่าต้องเป็นไขมันชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว EPA DHA นะคะ เพราะช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ทั้งยังเพิ่มความสามารถในการจับกินของเม็ดเลือดขาวอีกด้วยค่ะ
· วิตามินและแร่ธาตุ วิตามินบี วิตามินดี กับแร่สังกะสี นับว่าจำเป็นอย่างมากในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันค่ะ ขาดไม่ได้เลยทีเดียว
· สารพฤกษเคมี หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าปัจจุบันมีสารพฤกษเคมี หรือ ไฟตินิวเตรียนท์ บางอย่างที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น ในผลเอลเดอร์เบอรี ซึ่งมีรายงานว่า ช่วยลดอาการไอ ไข้หนาวสั่น คัดจมูก น้ำมูก อาการไข้หวัดใหญ่ และมีผลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงอีกด้วย โดยอธิบายว่า สารในผลเอลเดอร์เบอรีนี้ จะไปจับกับผิวไวรัส ทำให้ยับยั้งประสิทธิภาพของเชื้อไวรัสในการเกาะติดกับเซลล์ร่างกาย และไม่สามารถเพิ่มจำนวนไวรัสในร่างกายได้ และยังไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ทำลายสิ่งแปลกปลอมให้ดีขึ้น เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยค่ะ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเอลเดอร์เบอรีมีสารสำคัญคือ สารกลุ่มแอนโธไซยานิน ซึ่งมีสูงกว่าผลบลูเบอรี่ถึง 5 เท่า และมากกว่าแครนเบอรีถึง 8 เท่า นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญคือ กลุ่มโพลีฟีนอล ได้แก่ chlorogenic acid, quercetin เป็นต้น กลุ่มฟลาโวนอล เช่น rutin นอกจากนี้ยังมีการศึกษาผลของสารสกัดเอลเดอร์เบอรีต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A พบว่า สามารถลดจำนวนเชื้อไวรัสได้ครึ่งหนึ่ง และเมื่อเพิ่มความเข้มข้น พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้จนเกือบหมด ทำให้มีงานวิจัยที่พยายามเทียบเคียงการใช้สารสำคัญในเอลเดอร์เบอรีกับการใช้ยาต้านเชื้อไวรัส พบว่าสามารถเทียบได้กับ anti-influenza medicine ได้แก่ Oseltamivir (Tamiflu®) และ Amantadine เลยทีเดียวค่ะ
ค่ะ ในเมื่อตอนนี้พวกเราเริ่มเข้าใจเรื่องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายรวมถึงวิธีในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายเป็นอย่างดีแล้ว แนะนำว่า เรามาช่วยกันดูแลระบบภูมิคุ้มกันของเรา ด้วยวิถีทางที่เราทำได้ ตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้ กันเลยดีกว่านะคะ อย่าลืมว่าจะกี่โควิดก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าเราช่วยกันมาดูแลภูมิคุ้มกันค่ะ
พญ.ฉัตรดาว จางวางกร #คุณหมอพริตตี้
แพทย์วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563
Home
การแพทย์ สุขภาพ พลนามัย
อีกทางรอดของยุคเชื้อโรคกลายพันธุ์ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองกับสารพฤกษเคมี
อีกทางรอดของยุคเชื้อโรคกลายพันธุ์ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองกับสารพฤกษเคมี
Tags
# การแพทย์ สุขภาพ พลนามัย
Share This
About preecha binmanoch
การแพทย์ สุขภาพ พลนามัย
ป้ายกำกับ:
การแพทย์ สุขภาพ พลนามัย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น