“วีรศักดิ์”แนะผู้ประกอบการ “ขนุนทอดกรอบ” ใช้เอฟทีเอส่งออก พร้อมดันขึ้นทะเบียนสินค้า GI - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

“วีรศักดิ์”แนะผู้ประกอบการ “ขนุนทอดกรอบ” ใช้เอฟทีเอส่งออก พร้อมดันขึ้นทะเบียนสินค้า GI

img

“วีรศักดิ์”นำ 3 หน่วยงานพาณิชย์ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง เดินหน้าช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับ “ขนุนทอดกรอบ” สินค้าดาวรุ่งตัวใหม่ของจังหวัด ทั้งการทำตลาดในประเทศ และการส่งออกต่างประเทศด้วยการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ พร้อมดันขึ้นทะเบียน GI เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เผยได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาร้านค้าส่งค้าปลีก ร้านโชวห่วยในพื้นที่ด้วย
         
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำผู้แทนจากกรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่หารือกับเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจในท้องถิ่น โดยได้หารือกับวิสาหกิจชุมชนบ้านโป่งสะท้อน อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง เพื่อสำรวจศักยภาพการแปรรูปขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเป็นสินค้าขนุนทอดกรอบ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพสูงในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดกลุ่มรักสุขภาพได้ดี เพราะเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสามารถทดแทนขนมขบเคี้ยวที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดได้ และที่สำคัญขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ ยังปลูกได้ง่าย ให้เปอร์เซ็นต์เนื้อในผลเยอะ สามารถรองรับอุตสาหกรรมการแปรรูปเพื่อการส่งออกได้
         
ทั้งนี้ ในการทำตลาดต่างประเทศ ได้แนะนำให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ในการส่งสินค้าไปขาย โดยปัจจุบันคู่เจรจาเอฟทีเอ 17 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าขนุนสดที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยกเว้นเกาหลีใต้ที่เก็บภาษีนำเข้าขนุนสดที่อัตรา 36% ส่วนสินค้าขนุนอบแห้งหรือขนุนทอดกรอบของไทยไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าใน 15 ประเทศคู่เอฟทีเอ ยกเว้นเพียง เกาหลีใต้ อินเดียและสปป.ลาว ที่คงภาษีนำเข้าที่อัตรา 36% 30% และ 5% ตามลำดับ
        
ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ดำเนินการศึกษารายละเอียดของสินค้าดังกล่าวว่ามีคุณสมบัติเข้าข่ายที่จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ได้หรือไม่ หากทำได้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน
         
พร้อมกันนี้ ได้เดินทางไปที่ร้านวรรณ (บริษัท วัชราวรรณ (2008) จำกัด) ซึ่งเป็นร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ มีร้านค้าปลีกสาขา จำนวน 3 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และมีสมาชิกเครือข่ายร้านค้าปลีก/ร้านโชวห่วย จำนวนกว่า 2,000 ร้านค้า โดยจะไปรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ทั้งจากร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านโชวห่วย เพื่อนำมาปรับปรุงแผนการส่งเสริมและพัฒนาให้ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ร้านค้าส่งค้าปลีกและร้านโชวห่วย มีการพัฒนาและสามารถแข่งขันกับโมเดิร์นเทรดได้ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก
         
สำหรับการส่งออกขนุนของไทยในช่วง 6 เดือนปี 2563 (ม.ค. - มิ.ย.) มีมูลค่าสูงกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.94% โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน มูลค่าการส่งออก 7,217,647 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6.16% เวียดนาม มูลค่าการส่งออก 5,709,021 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 54.22% สปป.ลาว มูลค่าการส่งออก 162,566 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 464.01% เยอรมนี มูลค่าการส่งออก 85,179 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 682.46% และเมียนมา มูลค่าการส่งออก 63,976 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 34,486.61%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad