ผลสำรวจพบว่า ไฮบริดคลาวด์ ขึ้นแท่นเป็นระบบคลาวด์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ผลสำรวจพบว่า ไฮบริดคลาวด์ ขึ้นแท่นเป็นระบบคลาวด์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

                  

                       ผลสำรวจพบว่า ไฮบริดคลาวด์ ขึ้นแท่นเป็นระบบคลาวด์

ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

การแพร่ระบาดส่งผลให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการใช้ไอทีเชิงกลยุทธ์



กรุงเทพฯ - 30 พฤศจิกายน 2563 - นูทานิคซ์  (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดคลาวด์คอมพิวติ้ง เผยผลสำรวจทั่วโลกและรายงานดัชนีการใช้คลาวด์ระดับองค์กร (Enterprise Cloud Index: ECI) ที่ทำการสำรวจติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยทำการประเมินความก้าวหน้าในการใช้งานไพรเวท ไฮบริด และพับลิคคลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ และในปีนี้ได้สอบถามผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อการตัดสินใจและการวางกลยุทธ์ด้านไอทีขององค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผลที่ได้จากการสำรวจที่สำคัญประการหนึ่งคือ 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ไฮบริดคลาวด์ยังคงเป็นรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีชั้นนำที่เหมาะสมต่อการใช้งาน และผู้ตอบแบบสอบถามที่กำลังใช้งานแบบไฮบริดคลาวด์ มีแนวโน้มที่จะวางแผนมุ่งเน้นการใช้งานเชิงกลยุทธ์และขับเคลื่อนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจ

 


การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โฟกัสด้านไอทีขององค์กรเปลี่ยนไปเป็นการให้การสนับสนุนพนักงานที่ต้องทำงานจากระยะไกล และช่วยให้พนักงานที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ เข้าใช้งานโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้แทบจะทันทีที่จำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้องค์กรก้าวหน้ามากขึ้นจากการใช้งานคลาวด์ที่มากขึ้น  ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากที่ใช้ไฮบริดคลาวด์ยังระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะนำเสนอวิธีการจัดระบบการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น จัดทำแผนงานด้านความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น ลดความซับซ้อนในการดำเนินงานต่าง ๆ และเพิ่มการใช้งานการประชุมผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น

 

เกือบ 76% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้ ทำให้พวกเขาให้ความสนใจใช้ไอทีในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น และเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (46%)กล่าวว่าการแพร่ระบาดนี้ ทำให้มีการลงทุนด้านไฮบริดคลาวด์เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการลงทุนในพับลิคและไพรเวทคลาวด์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ทำให้การพึ่งพาการใช้มัลติเพิล พับลิคคลาวด์เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ๆ  จากรายงานแสดงว่าในจำนวนองค์กรที่ใช้พับลิคคลาวด์อยู่แล้วนั้ 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้พับลิคคลาวด์หรือมัลติคลาวด์จำนวนสองระบบหรือมากกว่านั้น และผู้ตอบแบบสอบถามยังคาดว่าตัวเลขการใช้งานในลักษณะนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 71% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า




ผลสำรวจสำคัญอื่น ๆ จากรายงานปีนี้

 

  • องค์กรต่าง ๆ ดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญเพื่อเดินสู่เป้าหมายในการใช้รูปแบบการทำงานด้านไอทีที่เหมาะสมที่สุด: ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกรายงานถึงขั้นตอนสำคัญแรกเริ่มสู่ความสำเร็จในการใช้ไฮบริดคลาวด์ ซึ่งรวมถึงการใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จในดาต้าเซ็นเตอร์ และกระบวนการยกเลิกการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ไม่ได้เป็นระบบคลาวด์เพื่อใช้ไพรเวทและพับลิคคลาวด์  ทีมไอทีทั่วโลกกำลังวางแผนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง โดยได้คาดการณ์ว่าการใช้ไฮบริดคลาวด์โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 37 จุดตลอดช่วงเวลาห้าปีต่อจากนี้ และจะมีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ไม่ได้ใช้คลาวด์ลดลง 15 จุด  ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า เกือบ 26% ของโครงสร้างพื้นฐานที่โดดเด่นและใช้บ่อยกว่าประเภทอื่น คือการใช้งานแบบผสมผสานกันระหว่างไพรเวทคลาวด์ พับลิคคลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งดูเหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใช้ไฮบริดคลาวด์

 

  • แม้จะผ่านช่วงวิกฤตของโควิดมาแล้ว แต่ผลสำรวจพบว่าบริษัทต่าง ๆ ยังคงวางแผนเรื่องการทำงานจากระยะไกลอย่างต่อเนื่อง: ข้อมูลเปรียบเทียบต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่ายังจะมีพนักงานทำงานจากบ้านเป็นจำนวนมาก
    • ผลสำรวจปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พบว่าองค์กรที่ตอบแบบสอบถาม 27% ตอบว่าพนักงานขององค์กรเข้าทำงานที่สำนักงานทั้งหมดโดยไม่มีพนักงานทำงานจากที่บ้าน
    • แต่ผลสำรวจปี 2563 พบว่ามีเพียง 7% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ยังคงตอบเช่นนี้ (ตัวเลขร่วงลงมา 20 จุดจากผลสำรวจของปี 2562) จากการที่มีการทำงานจากระยะไกลมากขึ้น เนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19
    • ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าภายในปี 2565 การทำงานจากระยะไกลจะลดลงจากปี 2563 โดยคาดว่าจะมีบริษัทเฉลี่ย 13% ไม่มีพนักงานทำงานจากที่บ้าน อย่างไรก็ตามตัวเลขก็ยังอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าก่อนเกิดโควิ-19

 

ผลสำรวจยังมีข้อมูลที่สอดคล้องกันว่าสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ในอีก 12 ถึง 18 เดือนต่อจากนี้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (50%) และเพิ่มความสามารถให้พนักงานสามารถทำงานจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ (47%) 

 

  • ผลลัพธ์ทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ ไม่ใช่สภาพเศรษฐกิจ:  ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า แรงจูงใจหลัก ๆ ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไอที คือการควบคุมทรัพยากรไอทีได้อย่างเต็มที่ (58%) ความยืดหยุ่นที่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง (55%) และการเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนลูกค้าและพนักงานได้จากระยะไกล (46%)  และในทางกลับกันมีเพียง 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าการลดค่าใช้จ่ายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

 

 

  • นักการศึกษาเผชิญความท้าทายและความต้องการที่มีลักษณะเฉพาะ ที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19:  ผู้ตอบแบบสอบถามที่อยู่ในภาคการศึกษาจำนวนมากกล่าวว่าความมั่นใจว่าบุคลากรที่ทำงานจากระยะไกลมีฮาร์ดแวร์ที่เพียงพอ เป็นความท้าทายที่สำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ในขณะที่ 47% กล่าวว่า ช่องทางการสื่อสารที่เพียงพอและเหมาะสมระหว่างพนักงาน ลูกค้า และ ผู้ใช้บริการ เป็นความท้าทายที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ทั้งนี้ผลสำรวจพบว่าภาคการศึกษากำลังก้าวตามขั้นตอนที่ถูกต้องสู่การเปลี่ยนแปลง โดยมีการใช้ไพรเวทคลาวด์ในระดับสูง และผู้ตอบแบบสอบถาม 29% ระบุว่า พวกเขากำลังใช้ไพรเวทคลาวด์เพียงระบบเดียว (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 22%)

 

นางเวนดี้ เอ็ม. ไฟเฟอร์ หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของนูทานิคซ์ กล่าวว่า เมื่อเดือน มกราคมที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งยังพิจารณาว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงหนึ่งในฟังก์ชั่นพื้นฐานของธุรกิจที่มีหน้าที่ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ขององค์กรดำเนินไปได้  แต่ในวันนี้ความหมายของเทคโนโลยีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เทคโนโลยีกลายเป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อน สามารถสร้างหรือทำลายความมั่นคงและความอยู่รอดของบริษัทในระยะยาวได้ โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เราก้าวเข้าสู่โลกใหม่ของการใช้ไอทีเชิงกลยุทธ์ และได้ยกระดับของความสำคัญของไอทีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  ผลสำรวจดัชนีการใช้คลาวด์สำหรับองค์กร (Enterprise Cloud Index - ECI) ในปีนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงใหม่ที่เกิดขึ้นนี้อย่างชัดเจน โดยมีไฮบริดคลาวด์เป็นหัวหอกและจะยังคงความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จากการที่เราต่างหาแนวทางในการใช้ระบบที่ติดตั้งในองค์กร และระบบเวอร์ชวลผสมผสานกันไป และเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจโดยไม่พึ่งพาระบบใดระบบเดียวหรือแนวทางใดแนวทางเดียวอีกต่อไป

 

แวนสัน บอร์น ทำการสำรวจนี้ในนามของนูทานิคซ์เป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยทำการสอบถามผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีจำนวน 3,400 คนทั่วโลก เกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจขององค์กรในปัจจุบันว่าใช้อยู่บนระบบใด วางแผนจะใช้งานกับระบบใดในอนาคต ความท้าทายในการใช้คลาวด์ และการริเริ่มใช้คลาวด์เมื่อเทียบกับโครงการ และลำดับความสำคัญด้านไอทีอื่น ๆ  ผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในอุตสาหกรรมหลายประเภท องค์กรหลากหลายขนาดในภูมิภาคอเมริกา, ยุโรป, ตะวันออกกลาง,แอฟริกา, เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

 

ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานดัชนีการใช้คลาวด์สำหรับองค์กรฉบับเต็มของนูทานิคซ์ได้ที่นี่

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad