L&E ปรับโครงสร้างการบริหาร ส่งไม้ต่อให้คนรุ่นใหม่ พร้อมย้ำแผนขยายตลาดแสงสว่างสู่ความสมาร์ท รับยุค IoT - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

L&E ปรับโครงสร้างการบริหาร ส่งไม้ต่อให้คนรุ่นใหม่ พร้อมย้ำแผนขยายตลาดแสงสว่างสู่ความสมาร์ท รับยุค IoT


"คุณยงค์ ทรัพย์ทวยชน" และ "คุณปกรณ์ บริมาสพร" ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท L&E ขยับนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษาให้กับคณะกรรมการและฝ่ายบริหาร พร้อมแต่งตั้ง "นัทลี ทรัพย์ทวยชน" และ "เอกลักษณ์ บริมาสพร" เป็นกรรมการบริษัท นอกจากนี้ บอร์ดฯ ไฟเขียวแต่งตั้งให้ "อนันต์ กิตติวิทยากุล" นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ "นภาพร วิมลอนุพงษ์" เป็นกรรมการผู้จัดการ ผลักดัน L&E ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ย้ำการดำเนินงานทั้งหมดยังขับเคลื่อนด้วยทีมคณะกรรมการและผู้บริหารชุดเดิม การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เพื่อที่จะเติบโตในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง

คุณอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากคุณยงค์ ทรัพย์ทวยชน และ คุณปกรณ์ บริมาสพร ผู้ร่วมก่อตั้ง L&E Group เห็นว่าพวกตนมีอายุมากแล้ว จึงอยากเห็นคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการสานต่อเป้าหมายที่จะทำให้ L&E Group เป็นผู้นำธุรกิจด้านไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในเวทีระดับโลกต่อไป จึงได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ และได้สนับสนุนให้ คุณนัทลี ทรัพย์ทวยชน และคุณเอกลักษณ์ บริมาสพร เป็นกรรมการบริษัทแทน คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งให้ผม อนันต์ กิตติวิทยากุล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณนภาพร วิมลอนุพงษ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ เพื่อช่วยกันนำพาบริษัทไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่คุณยงค์ และคุณปกรณ์ จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาเพื่อให้การบริหารงานในช่วงเปลี่ยนผ่านดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่นและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะสนับสนุนให้บริษัทขยายธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคเศรษฐกิจดิจิตอลต่อไป

คุณอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทฯ จะยังคงโมเดลธุรกิจว่า "Total Lighting Solution Provider" เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับบริการที่ดีที่สุดและสามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ภายใต้กระแสเศรษฐกิจดิจิตอลที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับ IoT ซึ่งบริษัทฯ ได้พัฒนาจนกล่าวได้ว่าอยู่ในขั้นแนวหน้าของประเทศ มีผลงานในด้านนี้จำนวนมาก เช่น สมาร์ทซิตี้ที่อำเภอเกาะสมุย โคมไฟถนนอัจฉริยะที่วังจันทน์ วัลเลย์ จังหวัดระยอง และโคมไฟฟ้าโซล่าร์อัจฉริยะรอบสนามบินจำนวน 22 แห่ง ของกรมท่าอากาศยาน เป็นต้น และมีแนวโน้มว่าธุรกิจด้านนี้กำลังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไฟปลูกพืชที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นมาหลายปีแล้วกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราได้มีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีน ส่งผลให้เราได้ส่งสินค้าไปขายให้แก่ลูกค้าหลายรายในประเทศอเมริกาผ่านบริษัทพันธมิตร และปัจจุบันยังมีบริษัทอื่นจากประเทศอเมริกาติดต่อให้บริษัทผลิตสินค้าให้โดยตรงซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี เพื่อสอดรับแนวโน้มดังกล่าวที่เน้นการผลิตสินค้าครั้งละจำนวนมาก เราจึงได้ขยายเพิ่มโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "Efficient Value Chain Management" โดยเน้นการลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีนโยบายรักษาวินัยทางการเงิน และจะรักษาสัดส่วน D/E ที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดปัญหาความเสี่ยงจากการลงทุนมากเกินไป อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่กระทบต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่อย่างใด และบริษัทฯยังคงคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลักพร้อมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาดไปยังนานาประเทศ เชื่อว่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ" คุณอนันต์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad