เครือข่ายสื่อมวลชนฯ ประสบความสำเร็จ พร้อมเชื่อมชุมชนมีส่วนร่วมนโยบายภาครัฐ มุ่งทำหน้าที่ส่งต่อองค์ความรู้ด้านพลังงานทางเลือก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เครือข่ายสื่อมวลชนฯ ประสบความสำเร็จ พร้อมเชื่อมชุมชนมีส่วนร่วมนโยบายภาครัฐ มุ่งทำหน้าที่ส่งต่อองค์ความรู้ด้านพลังงานทางเลือก

 


เครือข่ายสื่อมวลชนฯ ประสบความสำเร็จ พร้อมเชื่อมชุมชนมีส่วนร่วมนโยบายภาครัฐ มุ่งทำหน้าที่ส่งต่อองค์ความรู้ด้านพลังงานทางเลือกจากแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะอย่างถูกต้อง

 

เครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกิจการตามมาตรา97(5)ประจำปีงบประมาณ 2562 ประสบความสำเร็จหลังจัดตั้งเครือข่ายสื่อมวลชนฯ พร้อมเป็นตัวเชื่อมชุมชนให้มีส่วนร่วมกับนโยบายภาครัฐและรณรงค์และขยายผลให้ประชาชนและสังคมมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิงขยะอย่างถูกต้อง

 

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็กซ์ โซลูชั่นส์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า กล่าวว่า โครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณตามมาตรา 97(5) ประจำปีงบประมาณ 2562

สำหรับโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบันมีสื่อมวลชนจากทั่วประเทศเข้ามาอยู่ในเครือข่ายกว่า 30 คน ครอบคลุมทั้งสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ โดยเครือข่ายสื่อมวลชนฯ จะทำหน้าที่รณรงค์และขยายผลให้ประชาชนและสังคมมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และขยะ พร้อมทั้งเผยแพร่ความรู้นวัตกรรมกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง

โดยสื่อมวลชนที่อยู่ในเครือข่ายฯ ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น เป็นการรวมตัวของสื่อมวลชนที่มีความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานทางเลือก จากทั่วประเทศทั้งสื่อจากส่วนกลางกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตลอดระยะเวลาในการดำเนินโครงการมีทั้งการให้องค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และการพาไปศึกษาการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิงขยะ ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้เครือข่ายสื่อมวลชนฯ มีความรู้ ความเข้าใจ และที่สำคัญสามารถส่งต่อและให้ข้อมูลด้านพลังงานที่ถูกต้องสู่ประชาชน ชุมชน และสังคมต่อไปได้

“โครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนฯมีวัตถุประสงค์ในการสำรวจและค้นหาองค์กรสื่อและสื่อมวลชนที่ใส่ใจเรื่องพลังงานทางเลือก เพื่อพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนไทย สร้างการมีส่วนร่วม รณรงค์และขยายผลให้ประชาชนและสังคมมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องพลังงานทางเลือก โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเห็นผลเป็นรูปธรรม คือ ทำให้ภาคประชาชนหรือสาธารณชนได้เข้าใจถึงความจำเป็นของการมีพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เพื่อเอามาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะ จึงคาดได้ว่าเมื่อภาคประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประเด็นเหล่านี้อย่างถ่องแท้แล้ว จะทำให้เกิดการมีส่วนร่วม และได้รับการสนับสนุนจากคนในชุมชน สังคม และประชาชนต่อไปในอนาคต” นางดรุณวรรณ กล่าว                                            

 นางดรุณวรรณ ได้กล่าวเสริมด้วยว่าตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ในการดำเนินโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า จนสามารถจัดตั้งเครือข่ายสื่อมวลชนฯ ขึ้นได้นั้น มาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งผู้ให้การสนับสนุน คือกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และสำนักข่าว รวมถึงนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานที่ได้มีบทบาทหลักในการร่วมขับเคลื่อนและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ตลอดจนผู้สื่อข่าวที่มีความสนใจ และต้องการจะเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม กิจกรรมและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับพลังงานทางเลือกไปถึงประชาชนอย่างถูกต้องบทบาทของสื่อมวลชนในการให้ความเข้าใจในเรื่องของพลังงานถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว โดยเฉพาะสื่อมวลชนท้องถิ่นนั้นการให้ความเข้าใจกับประชาชน กับคนในชุมชน มีความสำคัญมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ในเรื่องพลังงานทางเลือกเท่านั้น แต่รวมถึงในเรื่องพลังงานของประเทศว่าเราอยู่ในฐานะของผู้นำเข้าพลังงาน จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ พร้อม ๆ กับทำอย่างไรจะดูแลในเรื่องของสิ่งแวดล้อม    ซึ่งไม่เพียงแต่สื่อมวลชนเท่านั้น แต่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมให้ได้

ทั้งนี้เครือข่ายสื่อมวลชนที่จัดตั้งขึ้นจะเข้ามามีบทบาทในการให้ข้อมูลด้านพลังงานทางเลือกที่ถูกต้องแก่ประชาชน แก่ชุมชน และเป็นตัวเชื่อมที่จะทำให้ชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนสามารถที่จะร่วมกันผลักดันให้เกิดโครงการต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนของตัวเองและประเทศชาติได้ในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad