ซีพีแรม เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์โลก เดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัย - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ซีพีแรม เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์โลก เดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัย

 

  ซีพีแรม เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์โลก

เดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัย เคียงข้างคนไทยฝ่าวิกฤตโค


วิด-19 ไปด้วยกัน

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานมาตรฐานโลก ยังคงเดินหน้าในการเป็นผู้นำด้าน Food provider ของประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยและพบได้     ในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น ข้าวกล่อง ข้าวปั้น โอนิกิริ ซาลาเปา ขนมจีบ และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ตรา  เลอแปง ได้ผนึกกำลังกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ "อิ่มคุ้ม" สู้วิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปีที่ผ่านมา และเล็งเป้าขยายตลาดเพิ่ม 10% ในปี 2564นี้ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืนให้สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ อีกทั้งประกาศเปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ภายใต้ตราสินค้า “ VG for Love ” อาหารสำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก (Plant Based Diet)  ครบ 5 ประเภทรายแรกของไทย

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่   เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปทั่วโลก เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบนั้นเช่นกัน หลายธุรกิจชะลอตัว หลายธุรกิจก็ปิดตัวลง รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายครั้งด้วยกัน ซีพีแรมร่วมกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ดำเนินโครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ซึ่งเป็นเมนูอาหารพร้อมรับประทานในราคาปกติทั่วไป แต่อร่อยและมีปริมาณมากจนกินอิ่มในกล่องเดียวหรือชิ้นเดียว ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ไม่เพียงแต่เป็นโครงการช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคเท่านั้น ยังช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารภายใต้การจัดการของซีพีแรมให้เดินหน้าต่อไปภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจได้ เป็นผลให้พนักงานซีพีแรมและพนักงานของคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทานยังทำงานเต็มเวลาปกติ ไม่มีการลดคนหรือลดเวลาทำงานลง โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่มุ่งผลลัพธ์ช่วยเหลือทางสังคมมากกว่าผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ แม้ว่าซีพีแรมจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายปี 2563 ที่ตั้งไว้ แต่ยังคงสามารถรักษายอดขายในระดับ           ที่ใกล้เคียงกับปี2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังสามารถบรรลุเป้าหมายด้านอื่นๆ อาทิ การพัฒนาสินค้าใหม่มากกว่า 338รายการ การได้รับรางวัลเกียรติยศมากกว่ 13 รางวัล เป็นต้น




สำหรับปี 2564 ซีพีแรมคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะคลี่คลายลงบ้างตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป โครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักของซีพีแรม โดยเพิ่มขึ้นอีก 50% และยังคงมุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคมมากกว่าเป้าหมายทางเศรษฐกิจ ซีพีแรมกำหนดเป้าหมายการขยายตลาดเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว เป็นมูลค่า 21,310 ล้านบาทในปี 2564 และลงมือสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่  ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีกำลังผลิต1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งโรงงานใหม่แห่งนี้จะสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในกลางปี 2565 นับเป็นโรงงานเบเกอรี่แห่งที่ 6 หรือโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม

นอกจากนี้ซีพีแรมยังกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายาการพัฒนาสู่ความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(UNSDG) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ในทุกด้าน ตัวอย่างโครงการที่โดดเด่นเช่น โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญของเกษตรกรเสมือนคู่ชีวิต และดำเนินการตามแนวทาง Food3S  โดยซีพีแรมได้แนะนำและส่งเสริมการปลูกสู่เกษตรกรคู่ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก และการเก็บเกี่ยวกะเพราให้ได้ผลดี มีผลผลิตต่อไร่สูง เมื่อผลผลิตออกแล้ว ซีพีแรมยังรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป สำหรับเป้าหมายโครงการปี 2564 ซีพีแรมจะขยายผลไปสู่เกษตรกรพืชผักชนิดอื่นๆ เช่น ผักคะน้า เกษตรกรได้รับการส่งเสริมอาชีพเพิ่มขึ้น 30% รวมถึงมูลค่าการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้น 10% และ โครงการเรียนฟรีมีรายได้ (ปัญญาภิวัฒน์ - ซีพีแรม)  เป็นโครงการที่ซีพีแรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับเยาวชน จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์-ซีพีแรม โดยจัดการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพประเภทวิชาพาณิชยกรรม และประเภทวิชาอุตสาหกรรม ใช้หลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และจัดการศึกษาในระบบ “ทวิภาคี” เรียนรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติควบคู่กันไป มุ่งเน้นการใช้ประสบการณ์ตรง สนองตอบความต้องการของสถานประกอบการเป็นสำคัญ สำหรับเป้าหมายปี 2564  คือ การมอบทุนการศึกษาตลอดหลักสูตรจำนวน 60 ทุน มีรายได้ระหว่างเรียน100% และนักเรียนที่สำเร็จการศึกษามีอาชีพรองรับหลังจบการศึกษา 100%

นายวิเศษ กล่าวต่ออีกว่า จากการที่สังคมไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ พร้อมกับร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร ซีพีแรม   จึงได้พัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริโภคดังกล่าว โดยขณะนี้ได้ออกมาวางตลาดแล้ว คือ อาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้า “VG for Love ” อาหารกลุ่มใหม่สำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก “ Plant Based Diet ” ซึ่งมีไลฟ์สไตล์สอดคล้องทั้ง 4 ความรัก คือ  รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์  รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก มุ่งหวังให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร         “ VG for Love” แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข1 อาหารเจ , หมายเลข 2 อาหารวีแกน , หมายเลข 3อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่  และ หมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนม และ ไข่  ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” ปิดผนึกมิดชิด เพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด  โดยบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” นี้ ได้รับการออกแบบจากแนวคิด   “ The Blue Planet ” คือ โลกเราเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในสุริยจักรวาลที่เป็นสีฟ้า เวลามองดูจาก นอกโลก “ VG for Love” ได้วางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางแม็คโคร , 7-Eleven(online) ร้านค้าชั้นนำ   ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งพร้อมจะขยายจุดจำหน่ายคลอบคลุมทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad