“พาณิชย์”หนุนร้านอาหาร-เครื่องดื่มทำธุรกิจ “ฟู้ดทรัค” เพิ่มโอกาสเติบโต-เข้าถึงเงินทุน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

“พาณิชย์”หนุนร้านอาหาร-เครื่องดื่มทำธุรกิจ “ฟู้ดทรัค” เพิ่มโอกาสเติบโต-เข้าถึงเงินทุน

img

“พาณิชย์”หนุนร้านอาหาร-เครื่องดื่มทำธุรกิจ “ฟู้ดทรัค” เพิ่มโอกาสเติบโต-เข้าถึงเงินทุน

“พาณิชย์”เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มเข้าสู่ธุรกิจ “ฟู้ดทรัค” เพื่อเพิ่มโอกาสทำธุรกิจและเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังพบเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีจำนวน 2,800 คันทั่วประเทศ มูลค่าตลาดแตะ 3,000 ล้านบาท เผยหากโควิด-19 คลี่คลาย เตรียมจัด “ฟู้ดทรัค มาร์ท ออนทัวร์” สร้างการรับรู้และโชว์ศักยภาพธุรกิจ
         
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากธุรกิจฟู้ดทรัคสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่ต้องการขยายธุรกิจหรือต้องการเงินลงทุน สามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินได้สะดวกและง่ายมากขึ้น และยังให้หารือกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มให้เข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคด้วย เพราะส่วนใหญ่จะประกอบธุรกิจแบบหน้าร้านพร้อมนั่งทานอาหารในร้านเป็นหลัก แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และรัฐบาลกำหนดนโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” พร้อมมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบทันที ถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มช่องทางการให้บริการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ยอดขายก็ยังไม่เติบโตเท่าที่ควร รวมทั้งไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่มีอย่างหลากหลาย ดังนั้น การลงทุนขยายธุรกิจสู่รถอาหารเคลื่อนที่หรือฟู้ดทรัคจะเป็นการเพิ่มอัตราส่วนของรายได้และฐานลูกค้ามากขึ้น ทำให้เข้าถึงโอกาสที่จะได้รับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
         
ทั้งนี้ การเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัค ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานก่อนเข้าสู่ธุรกิจและมองเห็นลู่ทางของการเติบโต จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัค ตลอดจนให้คำปรึกษาและเพิ่มพูนความรู้ที่จำเป็นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างจุดแข็งในการประกอบธุรกิจ

ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มเบาบางลง ให้จัดงานคาราวาน ฟู้ดทรัค มาร์ท ออนทัวร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าแก่ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้งเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ และพร้อมใช้บริการรถอาหารเคลื่อนที่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความเข้มแข็ง

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th สายด่วน 1570 หรือกองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ โทร. 0 2547 4939 e-Mail : stro@dbd.go.th กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ โทร. 0 2547 5953 e-Mail : franchisedbd@gmail.com
         
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.พ.2564) ประเทศไทยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ประมาณ 2,800 คัน แบ่งเป็น ภาคกลาง 60% ภาคเหนือ 14% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9% ภาคตะวันออก 6% ภาคใต้ 6% และภาคตะวันตก 5% มีสัดส่วนการจำหน่าย แบ่งเป็น ประเภทอาหารอินเตอร์ 27% เครื่องดื่ม 26% อาหารไทย 22% อาหารว่าง-หวาน 15% และอาหารว่าง-คาว 10% ส่วนเงินลงทุน (รถใหม่) เริ่มต้นประมาณ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อคันต่อปีประมาณ 1,056,000 บาท (4,000 บาท/22 วัน/12 เดือน) อัตราการเติบโตของธุรกิจเฉลี่ย 20% ต่อปี

นายญาณเดช ศิรินุกูลชร ประธานและผู้ก่อตั้ง TBIC Food Truck Thailand กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการฟู้ดทรัคโดยตรง เนื่องจากพื้นที่ขายที่ผู้คนออกมาซื้อสินค้าเกือบทุกพื้นที่ไม่เปิดให้บริการ ทำให้ฟู้ดทรัคต้องปรับตัวด้วยการไปจอดบริเวณหน้าหมู่บ้าน เพื่อให้บริการคนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่ สามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่มของฟู้ดทรัค ทั้งแบบส่งเดลิเวอรีและแบบรับสินค้าจากที่รถ ทำให้ฟู้ดทรัคที่ปรับตัวโดยเฉพาะที่มีการให้บริการแบบฟู้ดเดลิเวอรีได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและมากกว่าสถานการณ์ปกติ

โดยช่วงต้นปี 2563 การออกรถฟู้ดทรัคคันใหม่เพื่อประกอบธุรกิจหยุดชะงักไปบ้าง แต่ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 กลับมีการสั่งซื้อและผลิตรถฟู้ดทรัคทั้งในรูปแบบของรถกระบะและเทรลเลอร์มากขึ้น ทำให้ปลายปี 2563 รถฟู้ดทรัคเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 2,800 คันทั่วประเทศ จากช่วงต้นปี 2563 ที่มีรถฟู้ดทรัค จำนวน 2,500 คันทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 12% อีกทั้งผู้ประกอบการฟู้ดทรัคเลิกประกอบกิจการมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินกิจการแปรผันตามยอดขายในแต่ละพื้นที่เป็นหลัก ขณะที่ต้นทุนคงที่ในการดำเนินกิจการค่อนข้างต่ำ ทำให้การประกอบธุรกิจฟู้ดทรัคมีความยืดหยุ่นและมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป โดยมูลค่าการตลาดของธุรกิจฟู้ดทรัค ในปี 2562 อยู่ที่ 2,640 ล้านบาท และปี 2563 อยู่ที่ 2,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 316 ล้านบาท หรือ 11.97% และพบว่ามีผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่ระดับประเทศร่วมโดดลงเข้ามาร่วมแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad