‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ยื่นแบบไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ยื่นแบบไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น

‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ยื่นแบบไฟล์ลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน


‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 50 ปี ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ชูจุดแข็งด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินโครงการ ทั้งด้านต้นทุน ระยะเวลา และความปลอดภัย พร้อมก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านวิศวกรรมและงานก่อสร้างมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ด้วยวิสัยทัศน์ ‘จะเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยจะส่งมอบและรักษาไว้ซึ่งผลงาน ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพี่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ’ โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจ CIVIL ได้นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและระบบสาธารณูปโภคมีมูลค่างานรวมกันกว่า 40,000 ล้านบาท ครอบคลุมตั้งแต่งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน ระบบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ นิคมอุตสาหกรรมและงานอื่นๆ เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย การก่อสร้างท่อบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ นำหลักการบริหารสมัยใหม่ที่เน้นสร้างความคล่องตัวและความยืดหยุ่น ช่วยสนับสนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ด้วยทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่และบุคลากรที่เชี่ยวชาญงานวิศวกรรมโยธา ตลอดจนความพร้อมด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัยช่วยบริหารต้นทุนดำเนินโครงการ รวมถึงมีโรงงานผลิตวัสดุชิ้นส่วนก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานโครงสร้างสะพานและรถไฟความเร็วสูง โรงงานแอสฟัลท์ติกคอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ ท่อระบายน้ำคอนกรีต ราวเหล็กลูกฟูก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ช่วยให้ CIVIL ขยายงานก่อสร้างโครงการขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนทางวิศวกรรมที่มากขึ้น และส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้ในระยะเวลาที่กำหนดตามต้นทุนที่วางไว้ สร้างการยอมรับจากเจ้าของโครงการที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและได้รับการขึ้นทะเบียนให้กลุ่ม CIVIL เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษงานก่อสร้างจากหน่วยงานราชการต่างๆ ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลและรับงานจากหน่วยงานภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนเมกะโปรเจคที่จะเกิดขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความชำนาญงานก่อสร้างที่หลากหลาย ตั้งแต่งานก่อสร้างทาง งานทางรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการที่เกิดจากการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ เอื้อต่อการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ ช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งในรูปแบบการดำเนินงานภายใต้กลุ่มบริษัทฯ หรือรับช่วงงานก่อสร้างขนาดใหญ่จากเอกชนรายอื่นๆ 2. กลุ่มธุรกิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างทั่วไป ที่ทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบทางด้านต้นทุนในการก่อสร้าง 3.กลุ่มธุรกิจให้เช่าบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น การให้เช่าและบริการอาคารสำนักงานและให้เช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ต่อยอดความสำเร็จจากงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐไปยังเจ้าของโครงการที่เป็นบริษัทภาคเอกชน โดยนำจุดแข็งความเชี่ยวชาญวิศวกรรมงานโยธาของทีมบุคลากรและหลักบริหารจัดการสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างความได้เปรียบเชิงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 700 ล้านบาท แบ่งเป็น 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นเงินทุนสำหรับการขยายกิจการ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad