“พาณิชย์”ชี้สาเหตุ “เหล็กแพง” จีนจำกัดส่งออก ตลาดโลกมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

“พาณิชย์”ชี้สาเหตุ “เหล็กแพง” จีนจำกัดส่งออก ตลาดโลกมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น

img

“พาณิชย์”ชี้สาเหตุ “เหล็กแพง” จีนจำกัดส่งออก ตลาดโลกมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น

“พาณิชย์”เผยสาเหตุราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น เพราะปริมาณเหล็กในตลาดโลกลดลงจากการที่จีนจำกัดการส่งออกและลดกำลังการผลิต เพื่อลดการปล่อยมลภาวะ และยังมีความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ดันดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนมี.ค. เพิ่ม 5.4% คาดไตรมาส 2 ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามสัญญาณการก่อสร้างภาครัฐและเอกชน  

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่น เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ ผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ลวดเหล็ก ท่อเหล็กเคลือบสังกะสี ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ท่อสแตนเลส เหล็กแผ่นเรียบดำ ชีทไพล์เหล็ก ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป ตะปู ข้อต่อเหล็ก และเมทัลชีท เนื่องจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กปรับตัวสูงขึ้น เพราะปริมาณเหล็กในตลาดโลกลดลง จากนโยบายของรัฐบาลจีนในการจำกัดการส่งออกเหล็กและการลดกำลังการผลิตในประเทศตามแผนแม่บทปี 2564 เพื่อการลดการปล่อยมลภาวะ ส่งผลให้ราคาเหล็กในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการในตลาดโลกสูงขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดเริ่มคลี่คลาย
         
ทั้งนี้ ผลจากราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ทำให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยเดือนก.พ.2564 เพิ่ม 0.5% จากการเพิ่มขึ้นของหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก 0.8% และเดือนมี.ค.2564 เพิ่มสูงขึ้น 5.4% จากหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ที่สูงขึ้น 23.7% และยอดรวม 3 เดือนปี 2564 (ม.ค.-มี.ค.) เพิ่มขึ้น 4.4% จากหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก เพิ่ม 21.2%
         
นายภูสิตกล่าวว่า แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างไตรมาสที่ 2 ปี 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ความต้องการของตลาดและต้นทุนของสินค้าวัสดุก่อสร้างหลายประเภทที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดด้านการก่อสร้างที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ การบริโภคและการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปของไทย รวมถึงยอดการจัดเก็บภาษี ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างภาครัฐภายในประเทศ การปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง ภาคเอกชนที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ประกอบกับนโยบาย Made in Thailand ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่ผลิตในประเทศ โดยกำหนดให้งานก่อสร้างใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศก่อนเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าหรือปริมาณเหล็กทั้งหมด น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องปรับตัวดีขึ้นในระยะต่อไป
         
อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศ รวมทั้งความล่าช้าในการกระจายวัคซีน อาจส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมฟื้นตัวได้ไม่รวดเร็วนัก และยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อภาคการก่อสร้างและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สนค. จะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
         
สำหรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ซื้อขายใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา และนครศรีธรรมราช ครอบคลุมหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก กระเบื้อง วัสดุฉาบผิว สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 134 รายการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad