“จุรินทร์”ชงเอเปกฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 ห้ามจำกัดส่งออก ส่งเสริมเข้าถึงวัคซีน หนุนใช้ CL - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564

“จุรินทร์”ชงเอเปกฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 ห้ามจำกัดส่งออก ส่งเสริมเข้าถึงวัคซีน หนุนใช้ CL

img

“จุรินทร์”เสนอ 5 แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ในเวทีการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ย้ำห้ามจำกัดการส่งออก อำนวยความสะดวกสินค้าจำเป็น ส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม ให้ความสำคัญกับการขนส่ง โลจิสติกส์ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างบรรยากาศทางธุรกิจ พร้อมหนุนการใช้ CL ให้ทุกประเทศเข้าถึงวัคซีน ส่วนการประชุมร่วมกับ ผอ.ใหญ่ WTO เห็นพ้องหนุนยกเว้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเรื่องวัคซีน พร้อมดันเอเปกร่วมขับเคลื่อนประเด็นคงค้างใน WTO ทั้งอุดหนุนประมง แต่งตั้งสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ ลดอุดหนุนเกษตร ขับเคลื่อนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก (Ministers Responsible for Trade Meeting หรือ MRT) ผ่านระบบประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2564 ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ว่า ขอแสดงความยินดีและขอบคุณนิวซีแลนด์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่สําคัญครั้งนี้ และได้นําเสนอมุมมองของไทยเกี่ยวกับนโยบายทางการค้าที่จะช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และแนวทางของเอเปกในการเสริมสร้างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จำนวน 5 ประเด็นสําคัญ
         
โดยประการที่หนึ่ง ไทยยืนยันสนับสนุนการดําเนินงานตามปฏิญญาว่าด้วยการอํานวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายสินค้าจําเป็นที่ได้รับการรับรองโดยเอเปกเมื่อปีที่แล้ว โดยเน้นว่ามาตรการจํากัดการส่งออก ควรสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และจะต้องไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคทางการค้า
         
ประการที่สอง ไทยเร่งดําเนินงานตามความตกลงว่าด้วยการอํานวยความสะดวกทางการค้าภายใต้ WTO เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของวัคซีนและสินค้าจําเป็น โดยใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว สําหรับระบบพิธีการศุลกากร เพื่ออํานวยความสะดวกการค้าข้ามพรมแดน
         
ประการที่สาม รัฐบาลไทยกําลังเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน เพราะตระหนักถึงความสําคัญของแถลงการณ์เอเปก เรื่องห่วงโซ่อุปทานวัคซีนโควิด-19 เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 และสินค้ายาอย่างเท่าเทียม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของเอเปกและภูมิภาคอื่น
        
ประการที่สี่ ไทยตระหนักถึงความสําคัญของการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยให้ความสําคัญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมสร้าง บรรยากาศทางธุรกิจ
         
ประการที่ห้า ไทยสนับสนุนเรื่องการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยา หรือ Compulsory licensing – CL กับวัคซีน เนื่องจากมีความสำคัญต่อการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและรักษาชีวิตทุกคน
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐมนตรีการค้าเอเปกยังได้ประชุมร่วมกับนางเอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่ WTO โดยไทยเห็นด้วยกับการที่ WTO หารือที่เจนีวาเกี่ยวกับการยกเว้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของวัคซีนโควิด-19 เพราะไทยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงวัคซีนรักษาโควิด-19 อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อการรับมือกับการระบาดในปัจจุบัน โดยไทยสนับสนุนบทบาทของ WTO ในการเร่งการผลิตของโลกและห่วงโซ่อุปทานของวัคซีนรักษาโรคโควิด-19
         
สำหรับการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 12 หรือ MC12 เห็นว่า รัฐมนตรีประเทศสมาชิก WTO ควรมีเป้าหมายในการบรรลุข้อมติในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การสรุปผลเจรจาเรื่องกฎเกณฑ์การอุดหนุนประมงภายในเดือนก.ค.2564 , การแต่งตั้งสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ในตำแหน่งที่ว่างอยู่ เพื่อฟื้นฟูระบบการระงับข้อพิพาทของ WTO ให้กลับมาทำงานอย่างสมบูรณ์ , การต่ออายุเป็นการชั่วคราว (Moratorium) การยกเว้นการฟ้องร้องภายใต้กลไกระงับข้อพิพาทของ WTO กรณีได้รับความเสียหายหรือเสียประโยชน์อันพึงได้รับจากพันธกรณี แม้มิได้มีการละเมิดความตกลงทริปส์ และการยกเว้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรสำหรับการส่งผ่านอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งขอให้มีผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในการจำกัดและลดการอุดหนุนภายในที่บิดเบือนการค้าในภาคเกษตร การขับเคลื่อนแผนงานด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการปฏิรูป WTO
         
“ที่ผ่านมา เอเปกซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะแนวคิดใหม่ๆ ได้มีบทบาทในการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและการเจรจาภายใต้ WTO มาโดยตลอด ในการนี้ ไทยเห็นว่าเอเปกจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงผลักดันทางการเมืองผ่านแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปก เพื่อสนับสนุนการเจรจาภายใต้ WTO โดยไทยจะสานต่อการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปก เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการประชุม MC12 นี้”นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีนายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  และคณะเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad