ช่วงนี้ ถ้าติดตามข่าวสารจากกระทรวงพาณิชย์ จะเห็นว่า “มีข่าวเกี่ยวกับการลดค่าครองชีพ” ออกมามากมาย และต่อเนื่อง
ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ก็โครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 12 (Online)”
Lot นี้ ว่าด้วยการลดราคาสินค้าที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
มีทั้งสิ้น 6 กลุ่ม ทั้งสินค้าและบริการ
เริ่มลดราคาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา และจะลดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค.2564
รวมแล้ว 1 เดือนเต็ม
โดยกลุ่มแรก ที่ลดราคา ได้แก่ การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม ได้แก่ Lazada , Shopee , Ohlala และ JJ Mall จะลดราคาสินค้าสูงสุด 30%
เฉพาะ Lazada จะลดค่าจัดส่งสำหรับ 3 ชิ้นขึ้นไป ลด 30 บาท ถ้าซื้อครบ 99 บาทขึ้นไป จะลดค่าจัดส่ง 40 บาท
กลุ่มที่ 2 เคอรี่ , Grab , Lalamove , DHL และไปรษณีย์ไทย จะลดค่าบริการจัดส่งสูงสุด 77% และลดค่ากล่อง 38%
กลุ่มที่ 3 ฟาสต์ฟู้ด ได้แก่ Burger King , Pizza Hut , The Pizza Company และ KFC จะลดค่าอาหารสูงสุดถึง 50% มีอาหารทั้งหมด 23 รายการ
กลุ่มที่ 4 บริการอินเตอร์เน็ต True , AIS และ DTAC จะลดค่าบริการเหลือ 75 บาทต่อเดือน ส่วน NT จะลดค่าบริการเน็ตบ้านฟรี 3 เดือน และเดือนถัดไปคิดเดือนละ 300 บาท
กลุ่มที่ 5 อุปกรณ์และสื่อการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ AIS DTAC และ True จะลดราคามือถือ 15 รายการ ลดราคาสูงสุด 75% ส่วนแท็บเล็ตจะลดราคา 27 รายการ ลดสูงสุด 68%
กลุ่มที่ 6 มีห้างจำนวน 16 ห้าง ได้แก่ แม็คโคร , The Mall , เซ็นทรัล , BigC , Tops , CP Freshmart , โลตัส , Foodland , Maxvalue , B2S , Supersports , Office Mate , Power Buy , 7-11 , Boots และ Watsons จะลดราคาสินค้าในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ลดทั้งหมด 11 หมวด กว่า 12,600 รายการ ลดราคาสูงสุด 85%
โดย 11 หมวด ประกอบด้วย 1.หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 2.อาหารสำเร็จรูปปรุงสำเร็จแช่แข็ง 3.ซอสปรุงรส 4.ของใช้ประจำวัน 5.ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย 6.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง 7.เครื่องใช้ไฟฟ้า 8.เครื่องสำอาง 9.เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 10.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 11.อื่นๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องครัว เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ สามารถซื้อผ่านระบบออนไลน์ของแต่ละห้าง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า โครงการนี้จะช่วยลดค่าครองชีพได้ให้กับพี่น้องประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และจะมีผลในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า500 ล้านบาท
นอกจากนี้ การลดราคาผ่านช่องทางออนไลน์ ยังสอดคล้องกับข้อกำหนดของ ศบค. ที่อยากให้พี่น้องประชาชน “อยู่กับบ้าน” หรือ “ทำงานที่บ้าน” เพื่อป้องกันโควิด-19
แค่กดซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ไม่ต้องเดินทางออกไปไหนมาไหน ลดการพบปะ ลดการสัมผัสลงได้
แต่โครงการ “ลดค่าครองชีพ” ยังไม่จบแค่นี้
ในเดือนก.ค.2564 นายจุรินทร์จะจัดส่ง “โมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” จำนวน 1,000 คัน
นำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ใส่รถโมบาย วิ่งจำหน่ายทั้งประเทศ
หลัก ๆ ก็จะมีข้าวสารบรรจุถุง ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้งโรยตัว นมข้นหวาน กาแฟ รวมถึงสินค้าเกษตรต่าง ๆ ที่จะต้องเร่งระบายออกจากพื้นที่ เช่น ฟักทอง กระเทียม หอมหัวใหญ่ ที่มีปัญหาด้านราคา
โครงการนี้ เกิดขึ้นได้ เพราะ “นายจุรินทร์” ทั้ง “ผลัก” ทั้ง “ดัน” เพื่อของบประมาณจากเงินกู้สำหรับการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
เบ็ดเสร็จได้มา 161.32 ล้านบาท และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา
ทันที ที่ได้งบประมาณ นายจุรินทร์ ได้กำชับให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน ทั้งประสานผู้ผลิตสินค้า ประสานนำสินค้าเกษตร ที่ต้องการช่วยระบายผลผลิต และประสานรถกระบะ ที่จะมาทำรถโมบาย
ตั้งแต่สัปดาห์นี้ เป็นต้นไป จะมีรถโมบาย ออกวิ่งทั้งประเทศ
พิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรในแต่ละจังหวัด หากเป็นจังหวัดใหญ่ อาจมีมากกว่า 10 คันขึ้นไป จังหวัดเล็ก อาจมี 3-5 คัน
งานนี้ ได้หลายเด้ง
เด้งแรก ผู้ผลิต มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า
เด้ง 2 ผู้บริโภค ได้มีโอกาสซื้อสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพในราคาถูก
เด้ง 3 เกษตรกร มีช่องทางในการจำหน่ายผลผลิต และมีรายได้เพิ่มขึ้น
เด้ง 4 รถกระบะในจังหวัดต่าง ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเข้าร่วมโครงการ
เรียกว่า “ลดค่าครองชีพ” กันจนจุก มีให้เลือกทั้งแบบ “ซื้อออนไลน์” และ “ซื้อแบบออฟไลน์” ผ่านรถโมบายที่วิ่งมาถึงหน้าบ้าน
“จัดหนัก จัดเต็ม” กันตลอดทั้งเดือน
ซีเอ็นเอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น