กรมการค้าต่างประเทศรับลูก “จุรินทร์” นำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้ในการอำนวยความสะดวกในการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) โชว์ผลงานปี 63 ช่วยลดต้นทุนเวลา ค่าเสียโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 76 ล้านบาทต่อปี ช่วยรัฐประหยัดทรัพยากรกระดาษมากกว่า 3.3 ล้านแผ่น เผยล่าสุดสามารถขอหนังสือ C/O ใช้เวลาแค่ 10 นาทีต่อฉบับ ขอได้ทั้งสิ้น 6 Form
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าส่งเสริมการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีตามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ต่าง ๆ และผลักดันการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal : ESS) เพื่อลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทย และลดโอกาสในการแพร่เชื้อตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมฯ เร่งเดินหน้าอำนวยความสะดวกทางการค้าและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยนำรายได้เข้าประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ มีผลการดำเนินการตามนโยบายในปี 2563 โดยกรมฯ ได้ออก C/O ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี จำนวน 9 ฟอร์มดังกล่าว รวม 769,195 ฉบับ ส่วนการใช้ระบบ ESS ได้ช่วยประหยัดเวลาอย่างน้อย 20 นาทีต่อฉบับ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาไปได้มากกว่า 256,000 ชั่วโมงต่อปี และเป็นการลดต้นทุนเวลาและค่าเสียโอกาสของผู้ประกอบการไทยไปได้อย่างน้อย 76 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งช่วยภาครัฐลดการใช้ทรัพยากรกระดาษในการพิมพ์แบบคำขอได้มากกว่า 3,300,000 แผ่นต่อปี
ปัจจุบัน ระบบ ESS เป็นระบบที่ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมฯ พิจารณาอนุมัติคำขอในระบบโดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์แบบคำขอดังกล่าว หลังจากนั้นระบบ ESS จะนำลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการจากฐานข้อมูลมาพิมพ์บน C/O โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วขึ้น สามารถลดเวลาในการขอรับ C/O เหลือเพียง 10 นาทีต่อฉบับ จากเดิมที่เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการต้องลงลายมือชื่อและประทับตราแบบสด ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาทีต่อฉบับ รวมทั้งช่วยลดโอกาสการถูกตรวจสอบย้อนกลับ (Post Verification) จากศุลกากรปลายทางได้มาก
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 เป็นต้นไป กรมฯ จะเริ่มให้บริการออก Form E (อาเซียน-จีน) ด้วยระบบ ESS ซึ่งจะส่งผลให้มี C/O ที่ออกด้วยระบบ ESS รวมทั้งสิ้น 9 ฟอร์ม จาก 12 ฟอร์ม ได้แก่ 1.Form D (อาเซียน) 2.Form JTEPA (ไทย-ญี่ปุ่น) 3.Form AJ (อาเซียน-ญี่ปุ่น) 4.Form FTA (ไทย-ออสเตรเลีย) 5.Form AANZ (อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์) 6.Form AK (อาเซียน-เกาหลี) 7.Form AHK (อาเซียน-ฮ่องกง) 8.Form TC (ไทย-ชิลี) และ 9.Form E (อาเซียน-จีน) รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 94.17% ของมูลค่าการออก C/O ทั้งหมด และกรมฯ จะเร่งเจรจากับประเทศปลายทางเพื่อผลักดันการใช้ระบบ ESS ให้ครอบคลุมทุกกรอบความตกลงของไทยภายในปี 2564
“กรมฯ มั่นใจว่า การผลักดันนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้ จะสามารถสร้างแต้มต่อทางการค้าที่สำคัญให้กับสินค้าของไทย ผ่านการลดต้นทุนโลจิสติกส์ รวมทั้งช่วยภาครัฐลดการใช้ทรัพยากรกระดาษและงบประมาณเป็นอย่างมาก และเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยพลิกวิกฤตโควิด-19 ให้การส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดโลกไม่สะดุด”นายกีรติกล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4830 และ 0 2547 4838 หรือเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th และสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385
วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
Home
ไอที ดิจิทัล
“พาณิชย์”โชว์ผลงานดิจิทัลออก C/O ลดต้นทุนธุรกิจ 76 ล้าน ประหยัดกระดาษ 3.3 ล้านแผ่น
“พาณิชย์”โชว์ผลงานดิจิทัลออก C/O ลดต้นทุนธุรกิจ 76 ล้าน ประหยัดกระดาษ 3.3 ล้านแผ่น
Tags
# ไอที ดิจิทัล
Share This
About preecha binmanoch
ไอที ดิจิทัล
ป้ายกำกับ:
ไอที ดิจิทัล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น