“จุรินทร์”เดินหน้าปั้น Gen Z เป็น CEO ยอดทะลุเป้า ล่าสุดสมัครเรียนแล้ว 16,500 รายทั่วประเทศ มั่นใจจะพัฒนาเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าและการส่งออก นำรายได้เข้าประเทศในอนาคต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From Gen Z to be CEO) และพบปะกับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี และผู้ประกอบการภาคใต้ ผ่านระบบ Zoom ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO ตอนเริ่มโครงการ ได้คุยกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตั้งเป้าในปลายปี 2563-2564 ที่เริ่มต้นโครงการจะปั้น Gen Z เป็น CEO ให้ได้ 12,000 คนทั่วประเทศ แต่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ตอนนี้สมัครเข้ามาถึง 16,500 คนจากทั่วประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ได้อบรมให้ความรู้ไปแล้วหลายรุ่น โดยมั่นใจว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าและการส่งออกของประเทศในอนาคต
โดยหลักสูตรปั้น Gen Z เป็น CEO จะมุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจการค้า มีทั้งหลักสูตรอีคอมเมิร์ซให้ขายผ่านระบบออนไลน์ได้ ขายเป็น มีความรู้ความเข้าใจเชิงลึก และเรื่องโลจิสติกส์สมัยใหม่ รวมทั้งเทคโนโลยีการบริหารจัดการยุคใหม่ ที่มีแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่จะมีส่วนมาช่วยให้บริหารจัดการได้คล่องตัวขึ้น และต้องมีความเข้าใจเรื่อง 5G การให้บริการ Cloud Service ที่เปลี่ยนจากระบบเดิม รวมถึงการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
“หลักสูตรนี้ จะให้ความรู้ความเข้าใจกับน้อง ๆ ความเข้าใจเรื่องการส่งออกเบื้องต้น ภาษาอังกฤษทางการค้า ที่สำคัญจะมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้รับทราบว่าเทคนิคในการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยเป็นอายุน้อยร้อยล้านทำอย่างไร”
นายจุรินทร์กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ มีประมาณ 5,000 คน ถือเป็นโอกาสทองสำหรับน้อง ๆ ทุกคน และที่สำคัญ ถ้าจบการอบรมแล้ว ผลสอบได้ติดท็อป 100 คนแรก มีโอกาสไปฝึกงานในบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น และบริษัท หัวเว่ย รวมทั้งระบบการทำธุรกิจบิทคอยน์ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการการเงินยุคใหม่ หรือถ้าติดท็อป 500 คน จะมีโอกาสเข้าไปเรียนเพิ่มทักษะต่าง ๆ กับเครือข่ายพันธมิตรของกระทรวงพาณิชย์
“อยากจะบอกกับน้องทุกคนที่เข้ามาเรียนในหลักสูตรปั้น Gen Z เป็น CEO จะไม่ผิดหวัง ประสบการณ์และองค์ความรู้ทั้งหลาย จะสามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างแน่นอนในอนาคต เพราะในภาวะที่เราประสบกับปัญหาโควิด-19 การค้าและการส่งออกกลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การท่องเที่ยวภายในประเทศ ยังลำบาก แม้จะเริ่มโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขยายไปเที่ยวกระบี่ สมุย พังงา เป็นอันดามันแซนด์บ็อกซ์ แต่จะเปิดประเทศยังต้องใช้เวลา การส่งออกจึงเป็นตัวจักรที่หวังได้ และยังเป็นกุญแจดอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และหวังว่าน้อง ๆ ที่มาอบรมในครั้งนี้ จะกลายมาเป็นแม่ทัพบุกตลาดโลกนำรายได้เข้าประเทศ และนำรายได้ไปพัฒนาประเทศต่อไป”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับการเปิดอบรมครั้งนี้ มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ , นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ , นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน , นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ , นายภูษิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า , นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ , คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น ผู้บริหารบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) รวมทั้งพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น