“ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี” บริษัทร่วมทุน “บี.กริม เพาเวอร์” และ “ยูนิเวนเจอร์” ซื้อหุ้น 100% ใน “อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564

“ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี” บริษัทร่วมทุน “บี.กริม เพาเวอร์” และ “ยูนิเวนเจอร์” ซื้อหุ้น 100% ใน “อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น”

“ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี” บริษัทร่วมทุน บี.กริม เพาเวอร์ และ “ยูนิเวนเจอร์” ซื้อหุ้น 100% ใน “อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น” เข้าถือหุ้น 3 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 360 เมกะวัตต์ เสริมศักยภาพการเติบโต ตอกย้ำผู้นำการผลิตไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม


ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM และ นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เปิดเผยว่า บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด หรือ UVBGP บริษัทร่วมทุนของ BGRIMและ UV ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 45% และ 55% ตามลำดับ อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือ E-COGEN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้น100% ในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด หรือ SSUT และ 74.5-100% ในบริษัท พีพีทีซี จำกัด หรือ PPTC ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Cycle Cogeneration Power Plants)รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ กำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ ทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการละ 90เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม โดยคาดการณ์ว่าการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ UVBGPใน E-COGEN จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2564

โดย SSUT เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า240     เมกะวัตต์ และไอน้ำ 60 ตัน/ชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อเดือนธันวาคม 2559  และ PPTC เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30ตัน/ชั่วโมง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมีนาคม 2559

ทั้งนี้ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด เป็นการร่วมมือกันระหว่าง BGRIM และ UV ในการร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานที่สนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนอื่น อันครอบคลุมโครงการพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยนํ้า โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน บริการ Energy Solution และโครงการสมาร์ทกริด โดยตั้งเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าสู่ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า การเข้าลงทุนของUVBGP ใน SSUT และ PPTC สะท้อนหลักการดำเนินธุรกิจโดยเน้นถึงความร่วมมือกัน (partnership) ที่ยึดมั่นมาตลอดของ บี.กริม รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมามากกว่า 25 ปี และยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจและการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจรของ บี.กริม เพาเวอร์ โดยจะใช้หลักการความเป็นมืออาชี(professionalism) ในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โครงการนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย

นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าลงทุน ของ UVBGP ใน SSUT และ PPTC สอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับโครงสร้างและสร้างความสมดุลในการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักในปัจจุบัน โดยการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ฐานรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตขึ้น จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวที่มีอยู่ และโอกาสในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่สามารถรองรับลูกค้ารายใหม่ได้ในอนาคต ทำให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ(Recurring Income) และต่อเนื่องในระยะยาว

ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 50 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 2,894 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568          และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี2573 ด้วยเป้าหมายรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท คงการเป็นผู้นำด้านบริษัทผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก พร้อมกับการกำหนดเป้าหมายระยะยาวที่สำคัญ คือ การก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ได้ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2050) ตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม พร้อมเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad