9 วิธีป้องกันแฮกเกอร์ ‘ดูดเงิน’ บัญชีธนาคารออนไลน์
ช่วงนี้เราเห็นข่าวโดนล้วงข้อมู ล แฮกบัญชี และล่าสุดมีการดึงเงินออกจากบั ญชีโดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว ทาง ESET จึงอยากใช้โอกาสนี้ ในการแนะนำแนวทางการใช้งานธุ รกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย
1. ใช้อุปกรณ์ที่ไว้ใจได้
อันดับแรกอุปกรณ์ที่ใช้ธุ รกรรมนั้นควรจะปลอดภัย อย่างคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนส่วนตัวเป็นตัวเลื อกที่ดี เพราะคุณจะรู้สึกได้เมื่อมี อะไรผิดปกติ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ ของคนอื่น หรืออุปกรณ์สาธารณะทำธุรกรรม เพราะจะเป็นการนำบัญชีของคุณเข้ าไปเสี่ยง
2. หลีกเลี่ยงการใช้อินเตอร์เน็ ตสาธารณะ
ไม่ใช่อินเตอร์เน็ตทุกที่ จะปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรม โดยเฉพาะ Free Wi-Fi ตามคาเฟ่หรือร้านกาแฟ หากมีความจำเป็นเราแนะนำให้ใช้ Virtual Private Network (VPN) เพื่อป้องกันการลักลอบขโมยข้อมู ล
3. อัพเดตอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่ าสุด
การอัพเดตซอฟต์แวร์หรือระบบปฏิ บัติการนอกจากจะเพิ่มฟีเจอร์ ใหม่ๆแล้ว ยังเป็นการแก้ไขช่องโหว่หรือข้ อผิดพลาดจากเวอร์ชันก่อน หากเป็นไปได้ให้เปิดระบบอั พเดตอัตโนมัติ
4. ใช้โปรแกรมรักษาความปลอดภัย
โปรแกรมรักษาความปลอดภัยจะช่ วยรับมือกับไวรัส และมัลแวร์ได้หลากหลายชนิด ในบางยี่ห้ อสามารถกรองกลลวงจากอีเมล หรือเว็บไซต์ปลอมที่หลอกขโมยข้ อมูลของคุณได้อีกด้วย
5. ใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อน และอย่าใช้ซ้ำ
รหัสผ่านที่คุณใช้สำหรับทำธุ รกรรมควรคาดเดายาก และที่สำคัญก็คือไม่ควรใช้ซ้ำกั บบัญชีออนไลน์อื่นๆ เพราะหากบัญชีอื่นๆโดนแฮก อาจลามกลับมาที่บัญชีสำหรับทำธุ รกรรมของคุณได้
6. ใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two- factor Authentication)
เราอาจคุ้นเคยกับฟีเจอร์ ความปลอดภัยนี้ในชื่อของ OTP หรือ One-Time Password ซึ่งทำหน้าที่ยืนยันความเป็นเจ้ าของบัญชี ด้วยข้อความ SMS หรืออีเมล ซึ่งแม้แฮกเกอร์จะมีทั้งชื่อผู้ ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ของเราพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใช้ งานได้
7. ระวังหลุมพราง
อาชญากรไซเบอร์หรือแฮกเกอร์ยิ นดีที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ ได้มาซึ่งข้อมูลสำคัญของคุณ กลยุทธ์ Phishing เป็นลูกไม้พื้นฐานที่พวกเขาใช้ ด้วยการใช้ชื่อเป็นธนาคาร บริษัทขนส่ง หรือบริการออนไลน์
แล้วแจ้งว่าให้เปลี่ยนรหัสผ่าน หรืออัพเดตข้อมูลส่วนตัว หากไม่ทำเช่นนั้นบัญชีของคุ ณจะถูกระงับ หรือไม่สามารถใช้งานได้
หากคุณได้รับข้อความประมาณนี้ ให้ติดต่อไปทางต้นทาง เพื่อยืนยันข้อความหรืออีเมลดั งกล่าว เท่านี้คุณก็จะปลอดภัยจากมิ จฉาชีพได้ในระดับหนึ่ง
8. Logout — ลงชื่อออก
เมื่อทำธุรกรรมบนอุปกรณ์ที่ไม่ ได้ติดตัวตลอดเวลาอย่าง คอมพิวเตอร์ หรือแล็บท็อป เราแนะนำให้ลงชื่อออกหรือ Logout ออกจากระบบหลังจากทำธุรกรรม เพื่อลดโอกาสที่จะโดนแฮกในระหว่ างที่เราไม่ได้อยู่ติดกับอุ ปกรณ์
9. เปิดระบบแจ้งเตือนของธนาคาร
ในแทบทุกธนาคารจะมีบริการแจ้ งเตือนผู้ใช้ เมื่อมีรายการเงินเข้าหรือออก เพื่อให้เรารู้สิ่งที่เกิดขึ้ นกับบัญชีของเราและรับมือได้ทั นท่วงทีหากมีรายการที่ผิดปกติ เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น