ปอร์เช่ ประเทศไทย รังสรรค์สุดยอดประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าปอร์เช่ได้สัมผัสความเร็วสุดเอ็กซ์คลูซีฟ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ปอร์เช่ ประเทศไทย รังสรรค์สุดยอดประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าปอร์เช่ได้สัมผัสความเร็วสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ปอร์เช่ ประเทศไทย รังสรรค์สุดยอดประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้าปอร์เช่ได้สัมผัสความเร็วสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

 กรุงเทพฯ. เอาใจคนรักความเร็วด้วยยนตรกรรมสปอร์ตสายสนามแข่ง ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานเปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตสายสนามแข่ง ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new 911 GT3) อย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้วยการเนรมิตสนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต พาลูกค้าผู้ที่หลงใหลในความสปอร์ตและความแรง ไปสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการขับทดสอบสมรรถนะของรถปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new 911 GT3)  พร้อมคว้าทีมผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่  หรือ ปอร์เช่  อินสตรัคเตอร์ (Porsche Instructor) และนักแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตมืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทยมาให้คำแนะนำ และดูแลการขับขี่อย่างใกล้ชิด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2564 ณ สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ผ่านมา

คุณปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของเอเอเอสฯ ซึ่งเป็น ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ที่ได้จัดงานเปิดตัวรถปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new 911 GT3) ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สนามแข่งมาตรฐานระดับโลก พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะสำหรับลูกค้าปอร์เช่ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงประสบการณ์ความเร็วและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของยนตรกรรมสปอร์ตสายสนามอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงเรียนรู้สมรรถนะของรถสปอร์ตคู่ใจ ในด้านต่างๆ พร้อมวิธีการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย สุดท้ายนี้ผมหวังว่าทุกท่านจะได้รับความสุข และความประทับใจกลับไปจากงานในวันนี้”

สำหรับกิจกรรม The Exclusive Launch of the new 911 GT3 นับเป็นสุดยอดประสบการณ์ในการขับทดสอบสมรรถนะสุดเร้าใจหลังพวงมาลัยของยนตรกรรมสปอร์ตสายสนามแข่งระดับตำนานอย่างปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ที่เอเอเอสฯ ได้จัดขึ้นเพื่อลูกค้าปอร์เช่ โดยเฉพาะ สนองนโยบายของ เอเอเอสฯ ที่ว่า เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After You and your CAR) พร้อมทั้งรังสรรค์โปรแกรมสุดพิเศษให้เหมาะสมกับการขับขี่เพื่อเสริมสร้างทักษะในการควบคุมรถยนต์ ให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยภายใต้สถานการณ์ต่างๆ โดยเน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากรถแข่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งถูกถ่ายทอดมาไว้ในรถยนต์ปอร์เช่ทุกคัน และเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างเต็มสมรรถนะและปลอดภัยมากที่สุด โดยเหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับการถ่ายทอดข้อมูลและความรู้เบื้องต้นในการขับขี่รถปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ จากปอร์เช่  อินสตรัคเตอร์ (Porsche Instructor)  ก่อนการลงขับทดสอบสมรรถนะจริงในสนาม บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อีกด้วย

โปรแกรมการขับขี่ที่เหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดสอบบนสนาม คือสถานีการขับขี่ 4 สถานี ที่ผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ได้ออกแบบไว้ ได้แก่ สถานี “Handling” ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงอาการของรถเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางหรือการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ในสถานีนี้จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการยึดเกาะถนนและระบบช่วงล่างของรถยนต์ปอร์เช่ได้เป็นอย่างดี สถานี “Slalom” และ “Launch Control” ในสถานีนี้ผู้ขับขี่จะได้พบกับความแรงในการออกตัวสุดเร้าใจและระบบเบรกที่มีความปลอดภัยสูงสุดของรถยนต์  พร้อมกันนี้จะได้เรียนรู้วิธีการควบคุมรถยนต์โดยใช้พวงมาลัยหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนน พร้อมกับการควบคุมทิศทางที่แม่นยำและความคล่องตัวของรถขณะเข้าโค้งทางแคบด้วยความเร็ว รวมถึงศักยภาพการทรงตัวของรถยนต์ปอร์เช่ที่เป็นเลิศ และต่อเนื่องด้วยอีก 1 สถานีไฮไลท์ที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้แก่ สถานี “Taxi Laps” ซึ่งเป็นสถานีพิเศษเอาใจผู้เข้าร่วมงานทุกท่านรวมถึงผู้ติดตามให้ได้ร่วมสนุกกับการนั่งทดสอบสมรรถนะของรถแข่ง ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ (Porsche 911 GT3 R)  ส่งท้ายกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ด้วยการมอบรางวัลให้กับผู้ที่สามารถทำเวลาได้ดีที่สุด 2 ท่านใน สถานี “Slalom” นั่นคือโมเดลรถปอร์เช่ จีที3 สี Silver Metallic รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท ให้ผู้ชนะกับไปเป็นที่ระลึกถึงความประทับใจ

เกี่ยวกับปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3)

ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ได้รับการเสริมอุปกรณ์ทางเทคนิคที่โดดเด่นในขั้นตอนการพัฒนาทีมงานวิศวกรปักธงไว้ที่จุดประสงค์หลักหนึ่งเดียวคือ ยกระดับขีดความสามารถด้านสมรรถนะของยนตรกรรมสปอร์ตพลังแรง โดยไม่ลดทอนอรรถประโยชน์ความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวันลง การประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างบรรดาช่างเทคนิคจากสายการผลิตปกติและเหล่าบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากแผนกมอเตอร์สปอร์ต เพื่อภารกิจสุดยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความสำคัญนี้โดยเฉพาะ ซึ่งปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ได้รับการพัฒนาจากทีมงานวิศวกรชุดเดียวกับที่พัฒนารถแข่งสายสนามเข้ามาร่วมออกแบบยนตรกรรม จีที (GT) คันใหม่ สำหรับใช้บนถนนสาธารณะส่งผลให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็วราวกับจินตนาการ

ขุมพลังเครื่องยนต์รอบจัด High-revving DNA จากสนามความเร็ว

ขั้นตอนการทดสอบระหว่างการพัฒนาเครื่องยนต์ความจุ 4 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศที่ให้รอบการทำงานสูงในรูปแบบ high-revving เป็นภารกิจที่จำเป็นต้องใช้เวลามากยิ่งขึ้น ในภาพรวมเครื่องยนต์ของปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) มีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 22,000 ชั่วโมงบนแท่นทดสอบ ในขณะนั้นเราจำลองสถานการณ์การขับขี่ที่ต้องใช้ในสนามแข่งและเร่งเครื่องยนต์จนเต็มกำลังแทบจะตลอดเวลาที่ทดสอบ  เครื่องยนต์สามารถตอบสนองอย่างฉับไวทันทีที่เหยียบคันเร่ง ด้วยพื้นฐานจากขุมพลังของรถแข่ง 911 จีที3 อาร์  (911 GT3 R) และรถแข่ง 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) พกพาพละกำลังติดตัว 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) มากกว่า จีที3 (GT3)    รุ่นก่อนหน้า 10 แรงม้า กำลังสูงสุดจะออกมาในรอบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ 8,400 รอบต่อนาที และระบบจำกัดรอบอิเล็กทรอนิกส์จะยอมให้ทำรอบต่อไปจนตัดการทำงานที่ 9,000 รอบต่อนาที ในส่วนของแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าจาก 460 เป็น 470 นิวตันเมตร เช่นเดียวกับรถแข่งในวงการมอเตอร์สปอร์ต การทำงานอันแม่นยำและเที่ยงตรงของวาล์วที่รอบเครื่องยนต์สูง เกิดขึ้นจากระบบกระเดื่องกดวาล์ว rocker arms ที่แข็งแกร่ง เทคโนโลยีวาล์วแปรผัน VarioCam ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถควบคุมการทำงานของเพลาลูกเบี้ยวให้ตอบสนองต่อรอบการทำงาน และรับภาระเครื่องยนต์ แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงขยายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแบริ่งก้านสูบกว้างขึ้นและผนังกระบอกสูบเคลือบสารพลาสมาเพื่อลดการสูญเสียกำลังรวมทั้งลดการสึกหรอจากแรงเสียดทานที่ต่ำลง ระบบลิ้นปีกผีเสื้อแยกอิสระซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากรถแข่งให้การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น อัตราเร่งที่รวดเร็วทั้งในแนวตั้งชันและแนวราบที่ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ทำได้บนสนามแข่ง หมายความว่าน้ำมันเครื่องรอบจัดเช่นนี้ที่ต้องจ่ายให้เครื่องยนต์รอบจัดเช่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง  เช่นเดียวกับรถแข่งที่มีการหล่อลื่นเครื่องยนต์รับหน้าที่ด้วยระบบ dry-sump ซึ่งมีอ่างน้ำมันเครื่องแยกด้วยการทำงานของจังหวะดูดน้ำมันเครื่องรวมทั้งสิ้น 7 ขั้นตอนส่งผลให้น้ำมันเครื่องถูกส่งกลับไปยังอ่างอย่างรวดเร็วและ มีประสิทธิภาพ ในส่วนของการหล่อลื่นก้านสูบที่จำเป็นต้องรับภาระอย่างหนักนั้น เป็นหน้าที่ของปั้มน้ำมันเครื่องส่งต่อจากเพลาข้อเหวี่ยงโดยตรง เครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่ในรถแข่งปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) นั้นมีอุปกรณ์ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์บล็อกนี้แค่ 2 อย่างนั่นคือระบบระบายไอเสียและกล่องสมองกลควบคุมเครื่องยนต์ นอกจากนั้นเหมือนกันแทบทุกประการ เครื่องยนต์ของปอร์เช่ 911 จีที3 (Porsche 911 GT3) แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานวิศวกรและนักทดสอบฝีมือดีจากปอร์เช่ที่ได้ทำการทดสอบด้านมลภาวะถึง 600 รูปแบบ ในระหว่างกระบวนการพัฒนา เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้จะผ่านมาตรฐานข้อกำหนดที่เข้มงวด รวมถึงมาตรฐานท่อไอเสียอันเคร่งครัดที่ถูกบังคับใช้ในเชิงของความทนทาน ซึ่งต้องทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยความต่อเนื่องยาวนานเป็นระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร บนสนามรูปวงรีที่ Nardo ประเทศอิตาลี ขณะที่ทำความเร็วคงที่ที่ 300 กิโลเมตร  ต่อชั่วโมงและหยุดพักเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad