กรมการค้าต่างประเทศเผยยอดใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA และ GSP ในช่วง 8 เดือนปี 64 มีมูลค่า 53,804.40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.46% หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว การเร่งรัดการส่งออก ระบุจีนนำโด่งมูลค่าใช้สิทธิ์ FTA สูงสุด ตามด้วยอาเซียน ส่วนสหรัฐฯ นำใช้สิทธิ์ GSP ตามด้วยสวิตเซอร์แลนด์
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) เดือนส.ค.2564 มีมูลค่า 7,341.37 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.29% แยกเป็นการใช้สิทธิ์ภายใต้ FTA มูลค่า 7,030.93 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.07% และการใช้สิทธิ์ภายใต้ GSP มูลค่า 310.44 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.97%
ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ในช่วง 8 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 53,804.40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.46% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 79.13% ของการได้สิทธิประโยชน์ทั้งหมด แบ่งเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA มูลค่า 51,277.57 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.50% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 80.89% และภายใต้ GSP มูลค่า 2,526.83 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35.59% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 63.69%
ทั้งนี้ การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อส่งออกภายใต้กรอบ FTA ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าที่มีมากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม และจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย และยังเป็นผลมาจากการเร่งรัดผลักดันการส่งออก การกระตุ้นให้มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ทำให้มีการขอใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น
สำหรับรายละเอียดตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิ์ภายใต้ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน มูลค่า 17,771.78 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.อาเซียน มูลค่า 17,384.02 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ออสเตรเลีย มูลค่า 5,609.05 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.ญี่ปุ่น มูลค่า 4,662.69 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 5.อินเดีย มูลค่า 3,029.17 ล้านเหรียญสหรัฐ และกรอบความตกลง FTA ที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1อาเซียน–จีน 97.33% 2.ไทย–เปรู 93.24% 3.ไทย–ชิลี 92.57% 4.ไทย–ญี่ปุ่น 79.75% และ 5.อาเซียน-เกาหลี 69.05%
โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์ FTA สูง ประกอบไปด้วยสินค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร เครื่องดื่ม และเกษตร เช่น รถยนต์เพื่อขนส่งของ รถยนต์เพื่อขนส่งบุคคล (อาเซียน , อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ , ไทย-ชิลี , อาเซียน-จีน) เครื่องปรับอากาศ (อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ , ไทย-อินเดีย) ตู้เย็น (ไทย-อินเดีย) เนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง (ไทย-ญี่ปุ่น) กุ้งปรุงแต่ง (อาเซียน-ญี่ปุ่น) ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง (อาเซียน-ญี่ปุ่น) ทุเรียนสด (อาเซียน-จีน) ผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะม่วง มังคุด (อาเซียน-จีน) ยางธรรมชาติ (อาเซียน-เกาหลี) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดากระป๋อง (ไทย-ชิลี) เป็นต้น
ส่วนตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิ์ GSP มากที่สุด คือ สหรัฐฯ มูลค่า 2,255.25 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 43.94% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 67.10% รองลงมา คือ สวิตเซอร์แลนด์ มูลค่า 169.90 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.33% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 36.74% รัสเซียและเครือรัฐเอกราช มูลค่า 90.34 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.86% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 71.44% และนอร์เวย์ มูลค่า 11.34 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 6.91% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 64.33%
โดยสินค้าส่งออกที่มีการใช้สิทธิ์ GSP สูง เช่น ข้าวโพดหวาน อาหารปรุงแต่ง เนื้อสัตว์แปรรูป ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารหรือเครื่องดื่ม ปลาทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง เนื้อปลาแบบฟิลเล สด แช่เย็น แช่แข็ง ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอส มะพร้าวปรุงแต่ง น้ำหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564
ใช้สิทธิ์ FTA-GSP ส่งออก 8 เดือนปี 64 พุ่ง 53,804.40 ล้านเหรียญ โต 36.46%
Tags
# เศรษฐกิจมหภาค
# ส่งออก
Share This
About preecha binmanoch
ส่งออก
ป้ายกำกับ:
เศรษฐกิจมหภาค,
ส่งออก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น