นิคม RIL ในเอสซีจี เคมิคอลส์ คว้า Eco-World Class แห่งแรกในไทย ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564

นิคม RIL ในเอสซีจี เคมิคอลส์ คว้า Eco-World Class แห่งแรกในไทย ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน

นายบุญเอื้อม น้อยเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์ไอแอล 1996 จำกัดในเอสซีจี เคมิคอลส์ และนายอนุชิต สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกลุ่มมาบตาพุด เป็นตัวแทนรับมอบใบประกาศเกียรติคุณ จากนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในงาน “ECO Innovation Forum 2021” ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์

นิคม RIL ในเอสซีจี เคมิคอลส์ คว้า Eco-World Class แห่งแรกในไทย ต่อเนื่อง ปีซ้อน

ชูโมเดลการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่กับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ 4 ตุลาคม 2564 : บริษัท อาร์ไอแอล 1996 จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รับการรับรองเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับEco-World Class ซึ่งเป็นรางวัลระดับสูงสุด จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยได้รับการรับรองต่อเนื่อง ปีซ้อนเป็นแห่งแรกในประเทศไทย สะท้อนความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการจัดการและเป็นต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ใส่ใจด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การดูแลชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ ESG หรือ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) โดยมีนายบุญเอื้อม น้อยเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์ไอแอล 1996 จำกัดในเอสซีจี เคมิคอลส์ และนายอนุชิต สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกลุ่มมาบตาพุด เป็นตัวแทนรับมอบใบประกาศเกียรติคุณ จากนายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในงาน “ECO Innovation Forum2021” ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์

            นายบุญเอื้อม น้อยเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ไอแอล 1996 จำกัดในเอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าวว่า “ด้วยแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เอสซีจี เคมิคอลส์ จึงร่วมมือกับภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และชุมชนผลักดันให้เกิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในจังหวัดระยอง โดยนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล ได้ขับเคลื่อนให้โรงงานทั้งหมดภายในนิคมฯ เป็นโรงงานเชิงนิเวศ หรือ Eco Factory และด้วยการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมโดยนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ ESG เป็นกรอบการดำเนินงาน รวมทั้งการยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรฐานการจัดการความปลอดภัยในกระบวนการผลิต (Process Safety Management; PSM) มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับสูงสุด (Green Industry Level 5) รวมทั้งมาตรฐานโรงงานเชิงนิเวศ (Eco Factory) เป็นต้น จึงทำให้นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอลได้รับการรับรองจาก กนอ. ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ Eco-World Class ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแห่งแรกในประเทศไทย ต่อเนื่องถึง ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ใส่ใจเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิต การดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อุตสาหกรรมและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”

สำหรับโครงการหลักที่ทำให้นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล ได้รับการรับรองเป็น Eco-World Class ในปีนี้ ได้แก่ โครงการด้าน Symbiosisหรือการแลกเปลี่ยนก๊าซเชื้อเพลิงและรีไซเคิลก๊าซเหลือทิ้งระหว่างโรงงานภายในนิคมฯ ทำให้ลดการกำจัดของเสียและเปลี่ยนเป็นมูลค่าเพิ่มได้ในเชิงพาณิชย์ที่เป็นต้นแบบของประเทศ โครงการด้าน Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ไปฟื้นฟูเพื่อกลับมาใช้ใหม่ ลดปริมาณของเสียที่ต้องกำจัดลงได้กว่า 90 ตัน ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา และโครงการด้าน Eco Community ณ ชุมชนเนินพยอม ในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง โดยการส่งเสริมให้มีโครงสร้างพื้นฐาน การจัดกิจกรรม และการรวมกลุ่มชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รวมทั้งประเด็นด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น ได้แก่ โครงการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนทั้งด้านการผลิต การตลาด และการขาย ประเด็นสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการแยกขยะและสร้างมูลค่า และประเด็นความปลอดภัยในชุมชน ได้แก่ โครงการ The Lifesaver ผู้พิทักษ์ชีวิต เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมี โรงงานในเอสซีจี เคมิคอลส์ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรม 4.ประเภท Smart Energy ระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) และบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ประเภท Smart Process กระบวนการผลิตอัจฉริยะโดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการพลังงาน ซึ่งในปีนี้มีเพียง โรงงานที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม 4.0 จึงนับเป็นเครื่องยืนยันให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการร่วมกันส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้ก้าวสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความเจริญไปสู่เศรษฐกิจของไทย

บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด Site 3ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ Eco Factory
บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด Site 7 ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ Eco Factory
บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รับรางวัล ได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ Eco Factory
บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัดในเอสซีจี เคมิคอลส์ รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ประเภท Smart Process
บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รับรางวัลโรงงาน

            การรับรองนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ประกอบด้วย 3  ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 Eco-Champion ระดับที่ 2  Eco-Excellence และระดับที่ 3 Eco-World Class(ระดับสูงสุด) และโรงงานสนับสนุนข้อมูลการดำเนินงานพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รวมทั้งการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย โรงงานเชิงนิเวศ (Eco Factory) และโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ตามลำดับ

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่https://scgnewschannel.com / Facebookscgnewschannel /Twitter@scgnewschannel หรือ Line@@scgnewschannel 


เกี่ยวกับ นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล

นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล ในเอสซีจี เคมิคอลส์ เริ่มพัฒนาที่ดินเป็นนิคมอุตสาหกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2547 บนพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ในตำบลมาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งที่ผ่านมา ได้นำมาตรฐานการเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Estateมิติ ได้แก่ มิติกายภาพ มิติเศรษฐกิจ มิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบริหารจัดการ มาใช้บริหารจัดการภายในนิคมฯ และชุมชนโดยรอบ นำไปสู่การเป็นต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ทั้งการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชนในรูปแบบช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน และมีการดูแลด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จึงได้รับการรับรองเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ Eco-Champion ด้วยคะแนนสูงสุดติดต่อกันปี (2557-2559) กระทั้งในปี 2560 นิคมฯ อาร์ไอแอล ได้ผ่านการตรวจประเมินเป็น Eco- Excellence แห่งแรกของประเทศไทย และสามารถก้าวสู่ระดับ Eco-World Class ซึ่งเป็นระดับสูงสุดได้ในปี 2562 เป็นแห่งแรกในประเทศไทยอีกเช่นกัน รวมทั้งยังสามารถรักษาระดับการบริหารจัดการตามมาตรฐาน Eco-World Class ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3และยังคงมุ่งมั่นในการรักษาระบบ ตลอดจนการต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายสำคัญนั่นคือการอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad